จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ทรภ.3 ร่วมศุลกากรจับน้ำมันเถื่อน 30,000 ลิตร



เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2555 ที่บริเวณท่าเทียบเรือศุลกากรจังหวัดภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต นาวาเอกนันทพล มาลารัตน์ รองเสนาธิการกองเรือภาค 3 พร้อมด้วยนายจีระพันธ์ จันทรเพชร หน.งานสืบสวนปราบปรามที่ 4 กรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมัน 1 ลำ รถยนต์พ่วงบรรทุกน้ำมัน จำนวน 1 คัน และน้ำมันดำ (เตา) ลักลอบหนีศุลกากร จำนวน 30,000 ลิตร พร้อมด้วยผู้ต้องหาจำนวน 3 คน
ขณะขนถ่ายอยู่ที่บริเวณท่าเทียบเรือบ้านบ่อม่วง ม.4 ตำบลทรายข่าว อ.คลองท่อม จ.กระบี่


นาวาเอกนันทพล มาลารัตน์ รองเสนาธิการกองเรือภาค 3 ได้กล่าวว่า ด้วยทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับมอบหมายให้เป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 หรือ (ศรชล.เขต 3) โดยมีหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย ทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อประสานการปฏิบัติงานในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ พร้อมทั้งยังได้มีการประสานข้อมูลในเชิงลับ จนกระทั่งทราบว่าได้มีการลักลอบขนถ่ายน้ำมันที่หลบหนีศุลกากรในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้ประสานข้อมูลมายังเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อทำการลงพื้นที่และเข้าทำการจับกุมผู้ที่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2555 ทางเจ้าหน้าที่ทราบข่าวว่า จะมีการถ่ายน้ำมันที่ท่าเทียบเรือบ้านบ่อม่วง จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ศุลกากรให้เข้าทำการตรวจสอบ 


ด้านนายจีระพันธ์ จันทรเพชร หน.งานสืบสวนปราบปรามที่ 4 กรมศุลกากร หลังจากได้รับการประสานข้อมูล ว่าจะมีการลักลอบขนถ่ายน้ำมันจากเจ้าหน้าที่ศรชลเขต.3 จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 (ปราบปารมทางทะเล) เข้าทำการตรวจสอบบริเวณท่าเทียบเรือบ้านบ่อม่วง ม.4 ตำบลทรายข่าว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่พบว่าที่ท่าเรือบริเวณดังกล่าวกำลังมีการขนถ่ายน้ำมันจากเรือขนาด 79 ตันกรอส บรรทุกน้ำมันได้ 50,000 ลิตร ขึ้นมายังรถบรรทุกพ่วง หมายเลขทะเบียน ป้ายขาว 81-7961 นครศรีธรรมราช และรถพ่วงหมายเลขทะเบียน ป้ายขาว 81-7543 นครศรีธรรมราช จึงเข้าทำการตรวจสอบโดยละเอียด โดยขณะที่ขนถ่ายนั้นมีนายบุญเพ็ง พรมเจือ สัญชาติไทยเป็นผู้ควบคุมเรือ และลูกเรือสัญชาติอีก 1 คน ส่วนนายอรรถชัย หอมทรัพย์ สัญชาติไทย เป็นคนขับรถยนต์บรรทุกพ่วงคันดังกล่าว โดยมีรถบรรทุกพ่วงมีน้ำมันดำ (น้ำมันเตา) จำนวนทั้งสิ้น 30,000 ลิตร จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน 


และจากการสอบสวนนายอรรถชัย หอมทรัพย์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้มีนายทุนสัญชาติไทย เป็นผู้ว่าจ้างจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มารับน้ำมันที่บริเวณท่าเทียบเรือ ก่อนที่จะนำไปส่งโรงงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นครั้งๆ ไป 


ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดำ หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งขออันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ต้องห้าม ต้องจำกัด หรือของไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง จึงได้ยึดน้ำมัน เรือบรรทุกน้ำมัน และรถยนต์พ่วงบรรทุกน้ำมัน เป็นของกลาง พร้อมจับกุมลูกเรือและคนขับรถบรรทุก จำนวน 3 ราย นำส่งกรมศุลกากร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น