สมัครนายกและสมาชิกสภาป่าตองคึกคัก

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2555 ที่ห้องประชุมพระพิสิษฐ์กรณีย์ ชั้น 3 เทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครรับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีผู้มาลงสมัคร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มรักป่าตองนำโดย นายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง 2 สมัย กับกลุ่มป่าตองก้าวหน้า นำโดยนายกิตติสัณห์ คุรุ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลฯ ปี 2546 และนายมาโนด ทองหอม ผู้สมัครอิสระ เขตเลือกตั้งที่ 1 

เนื่องจากทั้งหมดมาถึงสถานที่รับสมัครก่อนเวลา จึงต้องมีการจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ผลปรากฏว่า กลุ่มป่าตองก้าวหน้า โดยนายกิตติสัณห์ คุรุ เป็นผู้จับหมายเลขก่อน โดยจับได้หมายเลข 2 ทำให้นายเปี่ยน กี่สิ้น หัวหน้ากลุ่มรักป่าตอง ได้หมายเลข 1 ในส่วนของสมาชิกสภาฯ ทั้ง 3 เขต โดยเขตเลือกตั้งที่ 2 – 3 ได้มีการตกลงว่า หากผู้สมัครนายกกลุ่มไหนได้หมายเลข 1 ผู้สมัครสมาชิกสภาก็จะได้หมายเลข 1 – 6 ส่วนกลุ่มถัดไปก็จะได้หมายเลข 7 – 12 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 มีผู้สมัครจำนวน 13 คน โดยมีอิสระเพิ่มมาอีก 1 คน ทางผู้สมัครและตัวแทนกลุ่มจึงได้ให้ทางผู้สมัครเป็นผู้หยิบหมายเลข โดยตกลงว่า หากผู้สมัครอิสระได้หมายเลข 1 ก็จะได้สมัครเป็นคนแรก แต่หากได้หมายเลข 2 ก็จะได้สมัครหมายเลข 7 และหากได้หมายเลข 3 ก็จะได้สมัครเป็นหมายเลข 13 

และจากการจับฉลากปรากฏว่านายมาโนด ทองหอม ผู้สมัครอิสระ จับได้หมายเลข 1 จึงได้เป็นผู้สมัครหมายเลข 1 ขณะที่ผู้สมัครสมาชิกสภาฯ กลุ่มรักป่าตอง ได้หมายเลข 2 – 7 และกลุ่มป่าตองก้าวหน้า ได้หมายเลข 8-13 ส่วนของเขตเลือกตั้งที่ 2 และเขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้สมัครกลุ่มรักป่าตอง ได้หมายเลข 1 – 6 ทั้งสองเขต และกลุ่มป่าตองก้าวหน้า ได้หมายเลข 7 – 12 ทั้งสองเขตเช่นกัน 

นายเปี่ยน กี่สิ้น หัวหน้ากลุ่มรักป่าตอง เปิดเผยว่า นโยบายที่ทางกลุ่มได้วางไว้ คือ จะสานต่องานที่ทำไว้แล้วเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เพราะในช่วงที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาก่อนหน้านี้รวม 2 สมัย ได้มีการสร้างผลงานต่างๆ ไว้ให้กับพี่น้องประชาชนชาวป่าตองค่อนข้างมาก โดยยังคงจะเน้นเรื่องการศึกษา เพราะในปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมอาเซียนจำเป็นที่ต้องบรรจุหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และปรับตัวพร้อมเข้าสู่สังคมอาเซียนได้ 

นอกจากนี้จะมีการลงทุนร่วมกับนักลงทุนต่างประเทศในการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เพื่อรองรับการขยายตัวและเติบโตของการท่องเที่ยว เช่น โครงการอุโมงค์ป่าตอง โครงการกระเช้าลอยฟ้า เป็นต้น ซึ่งมีกลุ่มนักลงทุนสนใจจากหลายประเทศ เช่น อินเดีย จีน เกาหลี เป็นต้น ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในส่วนของการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณถนนผังเมือง สาย ก ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการด้วยความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งการทำถนนพร้อมคูระบายน้ำและระบบไฟฟ้า รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากกรมชลประทานในการทำประตูเปิด-ปิดน้ำอีกด้วย 

ส่วนเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว ยังคงให้ความสำคัญ เพราะเปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของชาวป่าตอง โดยขณะนี้ได้มีการจัดทำโครงการเซฟตี้โซน มีทั้งการ ติดตั้งกล้องซีซีทีวี และการสร้างเครือข่ายตาสัปปะรด ดึงประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมแจ้งข่าวให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้ตั้งงบประมาณไว้แล้วสำหรับการติดตั้งกล้องซีซีทีวี พร้อมเครื่องตรวจระเบิด จำนวนประมาณ 25 ล้านบาท และจะมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดูแลเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ทางด้านนายนายกิตติสัณห์ คุรุ หัวหน้ากลุ่มป่าตองก้าวหน้า กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วนที่จะใช้ในการหาเสียง มี 4 ข้อหลักๆ คือ เรื่องของปัญหาน้ำท่วม ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคู คลองในป่าตองถูกเบี่ยงเบนทางน้ำเป็นอย่างมากทำให้เมื่อฝนตกลงมาน้ำไหลไม่สะดวก โดยจะต้องขยายเส้นทางน้ำ และตรวจสอบว่ามีโครงการใดที่ก่อสร้างแล้วส่งผลต่อเส้นทางเดินน้ำหรือไม่ ขณะที่ปัญหาน้ำเสีย ปัจจุบันบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาลที่มีอยู่ยังใช้งานไม่เต็มที่ จึงต้องมีการจัดระบบให้มีคุณภาพ ส่วนผู้ประกอบการที่มีการบำบัดน้ำเสียที่ดีอยู่แล้วเราก็จะสนับสนุน และส่วนที่ยังไม่เรียบร้อยก็จะเข้าไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยก่อนที่จะปล่อยน้ำลงสู่ทะเล 

ปัญหาการท่องเที่ยว เพราะป่าตองเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นแหล่งสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนป่าตอง จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสู่ป่าตองให้ได้มากเหมือนในอดีต ปัญหายาเสพติด เป็นอีกปัญหาอย่างหนึ่งที่เราตระหนัก โดยจะเน้นไปยังกลุ่มของเยาวชนเป็นหลัก เพื่อให้ลูกหลานชาวป่าตองห่างไกลจากยาเสพติด และสุดท้ายเรื่องของการจราจร จะมีการจัดระเบียบเส้นทางการเดินรถให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวและการเติบโตของเมือง โดยเฉพาะในช่วงของไฮซีซัน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก