จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รวบแล้วคนร้ายปล้นร้านทอง “ห้างทองไทย”



เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต นำโดยพ.ต.อ.วันไชย ปลาวัน ผกก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง สว.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรฉลอง โดยพ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะสิริ ผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.ต.วรพงศ์ พรหมอินทร์ สว.สส.สภ.ฉลอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกจำนวนหนึ่งได้ร่วมกันจับกุมตัวนายลาชี แมน (LACH EMAN) อายุ 19 ปี สัญชาติพม่า
พร้อมด้วยของกลางเสื้อยืดสีขาวเปื้อนเลือด 1 ตัว รองเท้าผ้าใบ 1 คู่ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณบ้านเช้าไม่มีเลขที่ ถนนปฎัก ซอยปฎัก 10 (ตรงข้ามไปรษณีย์กะรน) ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต หลังก่อเหตุบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทอง “ห้างทองไทย” เลขที่ 82 ถนนปฏัก ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต แล้วหนีไปกบดานในป่าเมื่อคืนวันที่ 8 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา


ทั้งนี้พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้มีการปิดล้อมตรวจค้นในสวนยางพาราซอย สุขสันต์ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่คนร้ายทิ้งรถไว้ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นตั้งตี่คืนที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นอีกรอบ แต่ก็ยังไม่เจอผู้กระทำความผิด จากนั้นตนพร้อม พ.ต.อ.วันไชย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่ร่วมไล่ล่าทั้งหมด และเชิญตัวผู้ประกอบการเนปาลที่อยู่ในพื้นที่ตำบลกะรน ที่สนิทกับผู้ต้องหา และเชิญแม่ -ภรรยา-น้อง ของผู้ต้องหาเพื่อมาขอข้อมูลในการสืบสวน


จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหารายนี้พักอยู่ที่ปฎักซอย 10 ต.กะรน ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบพบผู้ต้องหากำลังนั่งอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวในสภาพที่อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด จากการตรวจค้นผู้ต้องหาพบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท อยู่ในกระเป๋ากางเกงที่ผู้ต้องหาสวมใส่ 1 เส้น และพบเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันที่เกิดเหตุเปื้อนเลือด 1 ตัว และรองเท้า 1 คู่ โดยทองคำรูปพรรณทั้งหมดที่ค้นร้ายได้มาจากที่เกิดเหตุขณะนี้เจ้าของยืนยันแล้วว่าเพียง 104.50 บาท และขณะนี้ได้กลับเกือบหมดแล้วยังเหลือเพียง 10 บาท เท่านั้น และต้องติดตามหาดูว่า 10 บาที่เหลืออยู่ที่ใด หรือตกบนถนนขณะที่ผู้ต้องหาหลบหนี จึงนำตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและใช้อาวุธและใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและพาทรัพย์นั้นไป 


ด้านนาย LACH EMAN ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้เดินทางมาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา โดยมารับตัดเสื้อผ้าอยู่ที่ ต.กะรน และในช่วงนี้เกิดตกงานไม่มีเงินใช้ ประกอบกับต้องเลี้ยงดูแลคนในครอบครัว รวม 4 คน จึงคิดอะไรไม่ออก และได้ตระเวรดูร้านทองในพื้นที่ตำบลกะรน จนกระทั่งเห็นว่า ห้างทองไทย เป็นจุดที่น่าจะปลอดภัยที่สุดไม่อยู่ในชุมชน จึงได้ไปซื้ออาวุธปืนปลอมมา จากนั้นก็ได้ไปเช่ารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีแดง ทะเบียน สฉล 694 กรุงเทพมหานคร จากร้านเช่าในพื้นที่ฉลอง และนำสติ๊กเกอร์มาติดแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อป้องกันการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ และนำค้อนไปเพื่อทุบกระจกตู้ใส่ทอง


เมื่อพร้อมก็ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปที่เกิดเหตุแล้ว แล้วเดินเข้าไปในร้าน ก่อนที่จะของซื้อทองเพื่อแต่งงาน เมื่อเจ้าหน้าที่เอาทองมาให้ดู 2 ถาด ตนหยิบทองทั้ง 2 ถาดเพื่อหลบหนี เจ้าของร้านจึงปิดประตูอัตโนมัติ จากนั้นทางเจ้าของร้านก็ได้เอาอาวุธปืนมายิงใส่ 1 นัด จนได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือด้านขวา ในขณะนั้นตนยกมือไหว้ขอชีวิต และทำทีเหมือนจะขอมอบตัว ในระหว่างนั้นเจ้าของร้าน จึงยิงเข้าที่ประตู ทำให้กระจกแตก ตนจึงนำทองทั้งหมดวิ่งออกจากนั้นแล้วขึ้นรถหลบหนี และถอดเสื้อแจ็คแก็ตสีดำแขนยาวที่สวมใส่ขณะเกิดเหตุไว้ที่ซอยโคนโตน ต.กะรน ก่อนที่จะขับรถเพื่อหลบหนีเข้าซอยสุขสันต์ 1 ต.กะรน แต่รถเกิดเสียหลักหกล้ม จึงวิ่งเข้าในสวนยางพารา และซุ่มเงียบอยู่ในป่าใหญ่บริเวณดังกล่าว และเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ค้นหาตัว จึงไม่กล้าออกมา 


จนกระทั่งเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 05.00 น. ตนเห็นไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ จึงเดินลัดเลาะไปตามแนวเขตรอยต่อตำบลราไวย์ ต.กะรน อ.เมือง เพื่อกลับบ้านพักที่ซอยปฎัก 10 แต่เมื่อกลับถึงบ้านพักได้สัก 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 


ด้านนายปภาณ อมรรัตนศิริ เจ้าของร้านทองกล่าวว่า คนร้ายรายนี้ เป็นลูกค้าประจำของทางร้าน มาซื้อ ขาย ทองกับทางร้าน วันเกิดเหตุคนร้ายทำทีเลือกซื้อทอง ภรรยาของตนจึงได้ยกถาดทองจำนวน 2 ถาดมาให้คนร้ายดู ขณะที่ภรรยาของตนเผลอ คนร้ายได้ยกเอาถาดทองทั้ง 2 ถาดจะวิ่งออกจากร้าน แต่ทางร้านปิดล็อคประตูไว้ คนร้ายออกจากร้านไม่ได้ คนร้ายจึงได้ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายที่คนร้ายสะพายอยู่ ตนเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายแก่ตน และเป็นการป้องกันทรัพย์สินของตน จึงได้ใช้อาวุธยิงใส่คนร้าย 1 นัด เข้าที่บริเวณแขนขวา และประตูกระจกหน้าร้านแตก จากนั้นคนร้ายได้ขว้างค้อนใส่ตน แต่ไม่ถูก ตนจึงยิงปืนใส่คนร้ายอีก 1 นัด แต่กระสุนไปโดนประตูแตก 


คนร้ายก็ได้เอาตัวกระแทกประตูกระจกแตก และวิ่งออกจากร้านไปพร้อมถาดทอง 2 ถาด น้ำหนักรวม 104.50 บาท แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงได้ติดตามพบถาดทองตกอยู่หน้าร้าน 1 ถาด และพบทองคำรูปพรรณจำนวน 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท ตกอยู่หน้าร้าน จึงเก็บไว้มอบพนักงานสอบสวน ยึดไว้เป็นของกลาง อย่างไรก็ตามสำหรับสร้อยคอทองคำรูปพรรณที่คนร้ายชิงไปได้นั้น ขณะนี้ได้คืนกลับมาประมาณ 90 บาท ยังสูญหายอีกประมาณ 10 บาท 

 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น