จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กกต.ภูเก็ตติวเข้มลูกเสืออาสา กกต.



เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2555 ที่ห้องประชุมชั้นล่าง ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดอบรมทบทวนและทดแทน โครงการอบรมลูกเสืออาสา กกต.เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ปี 2555 ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต (กกต.ภูเก็ต) จัดขึ้น โดยมีนายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการ กตต.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและลูกเสือ กตต.จากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมประมาณ 234 คน 


นายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการ กตต.ภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงศึกษาธิการได้ตกลงร่วมมือในการดำเนินโครงการลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ในปีงบประมาณ 2550 เป็นการเริ่มแรก และได้ดำเนินการขยายพื้นที่ดำเนินการโครงการให้กว้างขวางเพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต มีกองลูกเสืออาสา กกต.เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยจำนวน 6 กอง ได้แก่ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต โรงเรียนเมืองถลาง โรงเรียนกะทู้วิทยา โรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 36 จังหวัดภูเก็ต และโรงเรียนวิชิตสงคราม โดยจะมีการขยายโครงการเพิ่มเติมในอนาคต 


สำหรับการจัดอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้ลูกเสืออาสา กกต.เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ปฏิบัติภารกิจที่สามารถช่วยเหลืองานของสำนักงาน กกต. สืบเนื่องจากผลการปฏิบัติงานในภารกิจที่รับมอบหมาย สำหรับการเลือกตั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์โดยได้รับการยอมรับจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่าลูกเสือเป็นเยาวชนที่มีเกียรติ เชื่อถือได้ มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความเป็นกลางทางการเมือง ปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันส่งผลให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งระบบใหม่อย่างมาก และภารกิจที่สำคัญของลูกเสืออาสา กกต. อีกประการ คือ การเผยแพร่ประชาธิปไตย เพื่อปลุกฝังการดำเนินชีวิต ตามวิถีประชาธิปไตยตั้งแต่เยาว์วัย นายกิตติพงษ์กล่าว 


ขณะที่นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ลูกเสือ กกต.ฯ และนักเรียนเยาวชนในทุกระดับ ซึ่งเยาวชนส่วนใหญ่ที่เป็นรากฐานสำคัญของระบบการเมืองที่ต้องเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต จำเป็นจะต้องเข้าใจบทบาท อำนาจหน้าที่ รวมถึงการมีความรู้ ความเข้าใจ มีจิตสำนึก ตระหนักยึดมั่น ถือมั่นในหลักการและอุดมการณ์ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมามีนักการเมืองเข้าสู่ระบอบการเมือง โดยขาดอุดมการณ์ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม มีอำนาจปกครองบ้านเมืองค่อนข้างยาวนาน ประเทศชาติจึงขาดโอกาส มีปัญหารุมเร้าทุกรูปแบบ ดังนั้นในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา ประชาธิปไตยจึงเสมือนย่ำเท้าอยู่กับที่ ไม่สามารถพัฒนาให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศไทยได้ จึงต้องอาศัยเยาวชนซึ่งจะเติบโตขึ้นมาในอนาคตมาช่วยพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้เจริญรุดหน้าต่อไปในอนาคต 







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น