เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2555 ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานภูเก็ต นายเกชา ศักดิ์สมบัติ ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา พร้อมคณะกรรมาธิการฯ และนางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สมาชิกวุฒิสภา ประชุมร่วมกับ น.ท.ประทีป วิจิตรโท รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (จำกัด) มหาชน นายสัมพันธ์ พงศ์ไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายจำเริญ ทิพญพงษ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
นายประเทือง ศรขำ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายเกชา กล่าวว่า การเดินทางศึกษาดูงานด้านคมนาคมในครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารของจังหวัดภูเก็ตและท่าอากาศยาน เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำที่มาให้บริการภายในท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ความคืบหน้าการต่ออายุสัมปทานพื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์ และความคืบหน้าโครงการขยายศักยภาพท่าอากาศยานภูเก็ต นอกจากนี้ยังติดตามการร้องเรียนของผู้ประกอบการให้บริการรถลีมูซีนในท่าอากาศยานภูเก็ต กรณีที่มีการเก็บค่าสัมปทานที่สูงเกินไป และการเพิ่มจำนวนรถแท็กซี่ที่ท่าอากาศยานอีก 30 คัน
ขณะที่ น.ท.ประทีป วิจิตรโท รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย (จำกัด) มหาชน กล่าวว่า ขณะนี้ โครงการขยายศักยภาพของสนามบินภูเก็ตซึ่งใช้งบประมาณ 5,700 ล้านบาท มีความคืบหน้าไปมาก โดยได้มีการยื่นซองประมูลไปแล้ว และในวันที่ 23 สิงหาคมนี้จะมีการนำเรื่องนี้ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง จากนั้นก็จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คาดว่าจะทำการว่าจ้างดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2556 และใช้เวลาในการก่อสร้าง 31 เดือน ส่วนเรื่องการต่ออายุสัญญาสัมปทานพื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์ได้มีการขยายเวลาอายุสัมปทานออกไปอีก 6 เดือน เพื่อทำการศึกษาความเหมาะสมด้านต่างๆ
ด้านนายประเทือง ศรขำ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารให้ได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการก่อสร้างโครงการขยายศักยภาพสนามบินนั้น ได้มีการปรับปรุงเก้าอี้นั่งพักรอให้มีขนาดเล็กลง เพื่อจัดวางเก้าอี้ให้ได้มากขึ้น มีการปรับปรุงห้องน้ำและส่วนอื่นๆ ด้วย ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตมากกว่า 9 ล้านคน
ส่วนของนายประกอบ ปัญญาไวย์ กรรมการผู้จัดการ สหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้สหกรณ์ฯ ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้แก่ท่าอากาศยานภูเก็ตเดือนละ 1.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก และปรากฏว่าได้มีการจดทะเบียนเพิ่มจำนวนแท็กซี่มิเตอร์ที่สนามบินภูเก็ตอีก 30 คัน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสหกรณ์ฯ เป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมกันว่าการจะเพิ่มแท็กซี่ในสนามบินภูเก็ตก็จะต้องเพิ่มจำนวนรถให้แก่สหกรณ์ในอัตรา 2 ต่อ 1 ด้วย จึงอยากให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
นายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในการให้จดทะเบียนรถแท็กซี่มิเตอร์เพิ่มจำนวน 30 คันนั้น เป็นไปตามมติของคณะกรรมการกลั่นกรองระดับจังหวัด ส่วนกรณีที่การลงนามข้อตกลงต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการเพิ่มจำนวนรถนั้น ไม่ทราบมาก่อนแต่จะกลับไปดูในรายละเอียดและนำเข้าหารือในคณะกรรมการอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามนางธันยรัศมิ์ อัจฉริยะฉาย ส.ว.ภูเก็ต ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา และนายจำเริญ ทิพญพงษ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ฝากในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณท่าอากาศยานภูเก็ตทั้งภายในและรอบนอกให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณถนนทางเข้าสนามบินสายเก่า ซึ่งอยู่ติดกับลานวิ่งของเครื่องบิน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น