จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เดินรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว



เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 ที่บริเวณสนามไชย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการเดินรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว โดยมีนายกิตติพงศ์ ตีรณัตถพงศ์ อัยการจังหวัดสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดภูเก็ต นางพิมพร ขอศานติวิชัย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม 


ทั้งนี้นายกิตติพงศ์ ตีรณัตถพงศ์ อัยการจังหวัด สคช.ภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยองค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล โดยใช้ ริบบิ้นสีขาว เป็นสัญลักษณ์สากล เพื่อร่วมกันณรงค์ทั่วโลก และคณะรัฐมนตรีได้มีมติตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 ให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว


สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมการเดินรณรงค์ภายใต้แนวคิด “รัก...ไร้รุนแรง” ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน ประกอบด้วย ศูนย์พึ่งได้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ศูนย์เสมารักษ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานเครือข่ายสหวิชาชีพ 


รวมถึงเครือข่าย จากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายสตรี อาสาสมัครต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชน จำนวน 800 คน เข้าร่วมเดินขบวนรณรงค์ในครั้งนี้ โดยในระหว่างการเดินขบวนผ่าน 


ก็จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั้ง 2 ข้างทางได้รับทราบและยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว ขบวนจะเดินทางจากสนามชัย หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ไปสิ้นสุดที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ด้วยระยะทางประมาณ 3 กม. 


นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต ตระหนัก และเห็นความสำคัญถึงปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัวมาโดยตลอด ซึ่งในปัจจุบันนี้ เป็นยุคของโลกาภิวัฒน์ การรับส่งข้อมูล ข่าวสาร เป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งความรวดเร็ว รวมถึงความล่าช้า ของข่าวสาร นั้น เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว 


ทั้งนี้ต้องสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้น โดยทุกภาคส่วน ทั้ง ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ตลอดจนเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมกันกระตุ้น ปลูกจิตสำนึก และสร้างความตระหนัก แก่ประชาชน ไม่ให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน แก่ เด็ก สตรี และผู้ด้อยโอกาสทางสังคมด้วย 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น