นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ นายมาร์ติน คาร์เพนเตอร์ กงสุลกิติมศักดิ์สหราชอาณาจักรประจำจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และพังงา ผู้แทนจาก Safer Phuket นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมการประชุมสุดยอดความปลอดภัยชายฝั่งทะเล กรณีชายฝั่งอันดามัน ว่า
กลุ่ม Safer Phuket เป็นกลุ่มที่ระดมทุน รวมทั้งความคิดต่างๆ เพื่อช่วยกัน ภายใต้โครงการที่เอกอัครราชทูตอังกฤษได้เคยเสนอ คือ โครงการเชฟตี้อันดามัน การรักษาความปลอดภัยชายหาด และ Coastal Waters Safety Summit คือ การจัดการประชุมเกี่ยวกับการรักษาอันดามันให้มีความสงบ ปลอดภัยและเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการจัดประชุมในวันที่ 9 – 10 มกราคม พ.ศ.2557
โดยสถานทูตอังกฤษและกลุ่ม Safer Phuket จะเป็นผู้จัดการประชุม โดยมีการสัมมนา 2 วัน และฝึกปฏิบัติ 1 วัน ซึ่งเป็นโครงการภาพรวมของการรักษาอันดามันทั้งหมด เช่น ความปลอดภัย ไลฟ์การ์ด อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้จมน้ำ กเป็นต้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยยและรักษาสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
“สำหรับการประชุมที่จะจัดขึ้นดังกล่าว ทางกงสุลได้ขอความร่วมมือให้ทางจังหวัดเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ทัพเรือภาคที่ 3 ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตำรวจน้ำ ท่องเที่ยว เป็นต้น เข้ามามีส่วนร่วม
เพื่อนำเสนอสภาพปัญหาการทำงานเกี่ยวกับชายหาดชายฝั่ง รวมถึงนักท่องเที่ยว การอบรม การช่วยชีวิต หรือปัญหาที่เกี่ยวกับทางน้ำทั้งหมด ซึ่งก่อนการประชุมทางจังหวัดจะเชิญมาหารือเป็นการภายใน เพื่อรวบรวมข้อมูลหรือแม้กระทั่งการฝึกอบรมซึ่งจะต้องมีการฝึกอบรมเพิ่มเติมในด้านต่างๆ เช่น ไลฟ์การ์ด เครื่องมือที่จะต้องขอเพิ่มเติม ประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย การตั้งหอเตือนภัยของไลฟ์การ์ดจะต้องมีความสอดคล้องและมีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นต้น”
นายไมตรี ยังกล่าวด้วยว่า นับเป็นนิมิตหมายอันดีในการที่จะทำงานร่วมกันระหว่างสถานทูตอังกฤษ ภาคประชาชนของชาวต่างชาติในพื้นที่ที่มีทั้งโรงแรม และผู้ประกอบการที่จะระดมทุนช่วยกัน กับ ภาคส่วนของจังหวัดที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อเรียกความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่าจะสามารถดูแลและช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวได้เมื่อประสบภัยทางทะเล และเป็นการเพิ่มสมรรถนะของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ให้เข้มแข็งขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น