จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คนร้ายตัดเหล็กหลังตู้เอทีเอ็มธนาคารธนชาต



สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.หญิงณัฐชยาน์ สุพรรณพงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากบริษัทรักษาความปลอดภัยนำเงินเข้าออกตู้เอทีเอ็ม ธ.ธนชาตว่า ตู้เอทีเอ็มของธนาคารริมถนนตรงข้ามสวนสาธารณะโลมา ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต ถูกคนร้ายตัดและโจรกรรมเงินสดไปได้เป็นจำนวนมาก จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลื้อง สว.สส.สภ.กะทู้นำกำลังไปตรวจสอบ 


ที่เกิดเหตุเป็นตู้เอทีเอ็มที่ถูกติดตั้งไว้ข้างร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและแผ่นซีดี ส่วนอีกด้านติดกับร้านที่กำลังปรับปรุง ตรวจสอบด้านหลังตู้เอทีเอ็มเป็นประตูม้วนถูกเปิดออก พบหลังตู้ถูกเจาะด้วยเครื่องเชื่อม-ตัดเหล็กจนเป็นรูขนาดใหญ่ เมื่อเปิดออกมาภายในพบกล่องบรรจุเงินสดจำนวน 4 ช่องถูกเผาจนไหม้เกรียม ไม่พบเงินที่อยู่ในตู้แต่อย่างใด 

โดยได้รับแจ้งจากบริษัทดังกล่าวมีเงินสดที่ติดอยู่ในกล่องบรรจุเงินอีก 1.4 ล้านบาท และได้เก็บเอาไว้แล้ว ส่วนเงินที่หายไปเป็นเงินทั้งสิ้น 224,000 บาท นอกจากนี้ที่พื้นพบแก๊สกระป๋องที่ใช้หมดแล้วตกอยู่ที่พื้น 1 กระป๋อง ถังแก๊สที่ใช้ในการตัดหรือเชื่อมเหล็กจำนวน 1 ถัง ถุงมือที่ใช้ในงานก่อสร้าง 1 คู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบพบมีการตัดสัญญาณเตือนภัยที่ตู้เอทีเอ็มก่อนลงมือเจาะและตัดตู้เอทีเอ็ม 


สอบสวนเจ้าหน้าที่บริษัทรักษาความปลอดภัยในการนำเงินเข้าออกเพื่อบรรจุลงตู้เอทีเอ็มดังกล่าวทราบว่า เมื่อช่วงเวลา 04.00 น.วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา พบว่าเงินที่ถูกบรรจุไว้ 1.7 ล้านบาทไม่มียอดเคลื่อนไหว จนกระทั่งสายวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบ จนพบว่าตู้เอทีเอ็มถูกคนร้ายเจาะและตัดโจรกรรมเงินสดภายในตู้ไปได้บางส่วน จึงเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนในเวลาต่อมา เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 


ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลื้อง สว.สส.สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ตนำกำลังชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งเข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในห้างไทวัสดุ สาขาภูเก็ต ถ.เทพกระษัตรี ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง เพื่อตรวจสอบผู้ต้องสงสัย หลังพบสติ๊กเกอร์ข้างแก๊สกระป๋องระบุชื่อห้างไทวัสดุ เบื้องต้นพบภาพ 2 ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวต่างชาติ ลักษณะคล้ายแขกขาวหรือชาวเนปาล-ปากีสถานซื้อแก๊สกระป๋องและถุงมือ จึงนำภาพดังกล่าวกลับมาตรวจสอบที่มาของบุคคลทั้ง 2 เบื้องต้นคาดว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวอย่างแน่นอน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น