เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2556 ที่อาคารอเนกประสงค์ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบเก้ง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีมอบข้าวสาร โครงการอาหารกลางวัน เพื่อมอบให้แก่เด็กนักเรียน ซึ่งทางกรรมการศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบเก้งจัดขึ้น
โดยมีนายธีรวุธ ศรีตุลารักษ์ ประธานศาลเจ้าจุ้นตุ่ยเต้าโบ้เก้ง คณะกรรมการศาลเจ้าฯ นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายยงยุทธ โสตถิอุดม ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ภูเก็ตผู้บริหารและนักเรียนจากสถานศึกษาต่างๆ เข้าร่วม
โอกาสเดียวกันนี้ยังได้มอบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนจากโรงเรียนภูเก็ตไทยหัวและโรงเรียนสตรีภูเก็ต ซึ่งมาทำหน้าที่มัคคุเทศก์แนะนำรายละเอียดต่างๆ ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในช่วงที่มีการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 5-13 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วย
นายธีรวุธ ศรีตุลารักษ์ ประธานศาลเจ้าจุ้นตุ่ยเต้าโบ้เก้ง กล่าวว่า สำหรับข้าวสารที่นำมามอบให้กับสถานศึกษาและองค์กรต่างๆ เป็นข้าวสารที่ได้รับการบริจาคจากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้ในช่วงที่มีการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 5 – 13 ตุลาคมที่ผ่านมา และยังคงมีเหลืออยู่ ประกอบกับในระหว่างนี้ทางศาลเจ้าฯ ก็ไม่ได้มีการเปิดโรงทานแต่อย่างใด
จึงได้มีการจัดทำโครงการอาหารกลางวัน เพื่อมอบข้าวสารที่เหลือดังกล่าวให้กับสถานศึกษาและองค์กรต่างๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้ ซึ่งในครั้งนี้มี 19 องค์กร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสถานศึกษา เช่น โรงเรียนสตรีภูเก็ต โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ฯ โรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต โรงเรียนภูเก็ตไทยหัว โรงเรียน อบจ.บ้านตลาดเหนือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการอื่นๆ ด้วย เช่น เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ภูเก็ต เป็นต้น รวมจำนวนข้าวสารที่มอบในครั้งนี้จำนวน 96 กระสอบ
ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับผู้ที่มาร่วมรับมอบข้าวศาลในครั้งนี้ ว่า นับเป็นเรื่องที่ดีที่ทางมูลนิธิฯ ซึ่งถือเป็นองค์กรการกุศลที่มีการทำงานด้วยจิตอาสา และได้เป็นสื่อกลางในการนำสิ่งของที่ได้รับมอบจากผู้มีจิตศรัทธาส่งต่อให้กับองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะสถานศึกษาและหน่วยงานภาครัฐที่จะต้องดูแลผู้คนเป็นจำนวนมาก
จึงฝากหลักยึดสำคัญที่มีการปฏิบัติ คือ การกุศล ซึ่งเมื่อมีการนำมาบริจาคให้ก็จะต้องมีการกระจายต่อให้องค์กรที่มีความจำเป็น การเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เป็นการช่วยเหลือแบ่งปันถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และสุดท้ายกัลยาณมิตร คือ การเป็นมิตรที่ดีต่อกัน มีการผูกโยงรักใคร่สามัคคี ปรองดอง ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมเติมเต็มให้กับสังคมในภาพรวม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น