จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ชาวบ้านสุดทนปลูกกล้วยประชดผู้รับผิดชอบ


เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ชาวบ้านบริเวณปากซอยกิ่งแก้ว ถนนรัษฎานุสรณ์ ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวนประมาณ 30 คน ได้รวมตัวกันนำต้นกล้วย ต้นตะไคร้ มาปลูกบนถนนรัษฎานุสรณ์ ซึ่งมีลักษณะเป็นหลุมเป็นบ่อ พร้อมเขียนป้ายข้อความต่างๆ เพื่อประท้วงเทศบาลตำบลรัษฎา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขปัญหา เนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากถนนเป็นหลุมเป็นบ่อในช่วงที่มีฝนตก และมีฝุ่นในช่วงหน้าแล้ง เนื่องจากถนนสายดังกล่าวมีรถสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก และจากสภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อดังกล่าวส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

นายชัยวัตร ใจจ้องดำรง อายุ 67 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 52/144 ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อมาเป็นเวลาประมาณ 6-7 ปี และได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง มีเพียงการนำดินมากลบแก้ปัญหาชั่วคราว เมื่อมีฝนตกลงมาก็กลับมาเป็นหลุมเป็นบ่อเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านโดยเร็ว และถาวร ซึ่งนอกจากการแก้ปัญหาถนนเป็นหลุมเป็นบ่อแล้วอยากให้เร่งทำท่อระบายน้ำริมถนนด้วย เนื่องจากปัจจุบันนี้เมื่อมีฝนตกลงมาน้ำจะไหลหลากลงมาบนถนนก็จะนำมาทั้งทรายและดินโคลนลงมา ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ขณะที่นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาถนนเป็นหลุมเป็นบ่อที่บริเวณปากซอยกิ่งแก้วนั้น ทางเทศบาลฯ ได้ตั้งงบประมาณเพื่อซ่อมแซมปรับปรุงไว้แล้ว โดยได้มีการประกาศเพื่อจัดหาบริษัทรับเหมาก่อสร้าง แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้สนใจ จึงได้ใช้วิธีจัดจ้างพิเศษแต่ก็ไม่มีเอกชนรายใดสนใจเข้ามาดำเนินการอีกเช่นกัน ทำให้ต้องยกเลิกโครงการดังกล่าว และได้ตั้งงบประมาณใหม่ในปี 2554 โดยจะทำเป็นถนนคอนกรีต คสล. ตั้งแต่ 3แยกซอยกิ่งแก้วอุทิศไปจนถึง ซ.กิ่งแก้ว ส่วนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าได้สั่งการให้กองช่างฯ เข้าไปดำเนินการแล้วโดยให้นำคอนกรีตไปถมหลุมที่เกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้สะดวกมากขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น