จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ภูเก็ตลงนามเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำบางวาด



เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือ การพัฒนางานชลประทานแบบบูรณาการ โครงการอ่างเก็บน้ำบางวาด (เพิ่มความจุอ่างฯ) อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ระหว่าง กรมชลประธาน โดยนายวีรวัฒน์ อังศุพาณิชย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานภูเก็ต กับ จังหวัดภูเก็ต โดยนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และเทศบาลเมืองกะทู้ โดยนายชัยอนันท์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการกักเก็บน้ำของเขื่อนบางวาดจากเดิม 7.3 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 10.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมีใช้เพียงพอตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่มักจะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งการลงนามความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกของจังหวัดภูเก็ตที่มีการบูรณาการความร่วมมือกัน

นายวีรวัฒน์ อังศุพาณิชย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคเพิ่มขึ้นตามอัตราการเจริญเติบโตทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยวและด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทางจังหวัดได้กำหนดให้เป็นวาระสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ และจากการหารือร่วมกันระหว่างจังหวัดภูเก็ต โครงการชลประทานภูเก็ตและเทศบาลเมืองกะทู้ เพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาแหล่งน้ำต้นทุนที่ไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา รวมถึงปัญหาน้ำอุปโภค-บริโภค โดยให้ความสนใจเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนที่มีอยู่เดิมเพื่อให้สามารถมีน้ำใช้ได้ตลอดทั้งปี

โดยทางจังหวัดภูเก็ต กรมชลประทาน และเทศบาลเมืองกะทู้ จึงมีความเห็นร่วมกันที่จะทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนางานชลประทานแบบบูรณาการ โครงการอ่างเก็บน้ำบางวาด เพื่อเพิ่มความจุของอ่างเก็บน้ำขึ้น เพื่อเป็นรูปแบบการพัฒนางานชลประทานแบบบูรณาการในการบริหารจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วมหรือการร่วมทุนระหว่างภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น (PPP:Public Private Partnership) ในอนาคต ซึ่งโครงการเพิ่มความจุของอ่างเก็บน้ำบางวาด จะเป็นการช่วยเพิ่มปริมาณแหล่งน้ำต้นทุนให้มากขึ้น จากเดิมซึ่งจุน้ำได้ 7.3 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 10.2 ล้านลูกบาศก์เมตร นายวีรวัฒน์กล่าว

นายวีรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ในการเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำบางวาด นั้นจะเป็นการเสริมสันเขื่อนขึ้นไปจากเดิมประมาณ 1 เมตร พร้อมขยายสันเขื่อน ยกระดับและการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งกรมชลประทานคาดว่าจะใช้งบประมาณจำนวนกว่า 300 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณประจำปี 2554 และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2554 เชื่อว่าหลังการดำเนินการเสร็จสิ้นจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในภูเก็ตได้เป็นอย่างดี ซึ่งขั้นตอนขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบเพื่อเสนอของบประมาณ

สำหรับสถานการณ์น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของจังหวัดภูเก็ตในปี 2553 นั้นจังหวัดภูเก็ตมีความต้องการใช้น้ำประมาณ 51 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี หรือ 145,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ในระยะยาวถึงปี 2570 ความต้องการน้ำประมาณ 78 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 214,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ปัจจุบันใช้น้ำจากแหล่งเก็บกักน้ำ สูบจากลำรางธรรมชาติ น้ำทะเลและน้ำใต้ดิน รวมความจุแหล่งเก็บกักน้ำที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 21 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้ได้ประมาณ 46 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี กำลังการผลิตน้ำประปาสูงสุดปัจจุบันของทุกแหล่ง รวมประมาณ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี หรือ 125,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน แต่โรงกรองน้ำบางแห่งน้ำดิบไม่เพียงพอและมีการสูญหายในระบบจ่ายน้ำ ทำให้ผู้บริโภคใช้น้ำได้จริงประมาณ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี หรือ 99,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ประมาณร้อยละ 68 ของความต้องการทั้งหมด พื้นที่บริการประมาณร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด นายวีรวัฒน์กล่าว

ปัจจุบันในจังหวัดภูเก็ตมีแหล่งเก็บกักน้ำต่างๆ มีน้ำเฉลี่ยประมาณร้อยละ 50 ของความจุ ประมาณ 11 ล้านลูกบาศก์เมตร แหล่งน้ำหลักคือ อ่างเก็บน้ำบางวาด มีน้ำ 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ มีน้ำ 6.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคและประปาเทศบาลนครภูเก็ตนำน้ำไปใช้เฉลี่ย 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร/เดือน ปริมาณน้ำที่มีสามารถใช้ได้ในระยะ 7 เดือน หรือถึงมกราคมปีหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บสะสมน้ำให้เต็มอ่างเก็บน้ำเพื่อไว้ใช้ให้เพียง พอในช่วงแล้งปีหน้า นายวีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้าย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น