จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

แก้ปัญหาหาบเร่หาดกะตะ – กะรน



เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนเกิดการทะเลาะวิวาทระหว่างคนไทยกับชาวต่างด้าวที่มาขายของเร่บริเวณหาดกะรน โดยมีนายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต
นายสุวัฒน์ บุบผะโพธิ์ ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีฯ นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน นางสาวอรุณศรี กลั่นมา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม


นายสมเกียรติ กล่าวว่า เนื่องจากทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตได้รับการร้องเรียนถึงปัญหาหาบเร่แผงลอยบริเวณชายหาดกะรน ซึ่งมีปัญหาระหว่างกลุ่มผู้ค้าคนไทยกับคนต่างด้าวชาวเขมร จนถึงขั้นมีการทะเลาะวิวาทกันมาแล้ว ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับจังหวัดภูเก็ต จึงได้ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และกำหนดแนวทางในการแก้ไข ว่าจะดำเนินการอย่างไร


นางสาวอรุณศรี กลั่นมา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.กะรน กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างพ่อค้าหาบเร่ที่เป็นคนไทยกับพ่อค้าชาวเขมรที่ทำกินอยู่บริเวณชายหาดสร้างความตื่นตกใจให้กับนักท่องเที่ยวที่พักผ่อนอยู่บริเวณชายหาดเป็นอย่างมาก จึงอยากทราบความชัดเจนของทางเทศบาลฯ ในการแก้ปัญหาดังกล่าว 


นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีสองส่วนคือ กรณีปัญหาหาบเร่ที่เป็นชาวต่างด้าวชาวเขมรบริเวณหน้าชายหาด นอกจากการจับปรับของเทศบาลฯ แล้วควรที่จะให้ทางตำรวจเข้ามาดำเนินการอย่างจริงจังด้วย เพราะไมเช่นนั้นก็จะกลายเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ส่วนที่ 2 กลุ่มจักรยานยนต์สามล้อเร่ขายอาหาร ซึ่งมีเป็นจำนวนมากเช่นกัน ทราบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่เบื้องหลังจึงอยากให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมานอย่างจริงจัง 


นายอนุรักษ์ แย้มคล้าย สมาชิกสภาเทศบาลตำบลกะรน กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเทศบาลฯ ไม่ได้ละเลยได้มีการดำเนินการกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางต่างด้าวเมื่อจับปรับแล้วก็ได้ส่งให้ตำรวจดำเนินการต่อด้วย แต่ปรากฏว่ามีนายตำรวจท่านหนึ่งร้องขอไม่ไห้ดำเนินคดีกับต่างด้าวดังกล่าว 


นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่า กลุ่มหาบเร่แผงลอยที่ทำมาหากินอยู่หน้าชายหาดซึ่งเป็นคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นคนอยุธยา และจังหวัดอื่นๆ จำนวนรวมประมาณ 400 คน ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาก หลังจากที่มีการนำเสนอข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น 


นายสมเกียรติ กล่าวสรุปว่า ในส่วนของหาบเร่ต่างด้าวให้มีการจับกุม โดยเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ให้มีการจัดทำทะเบียนหาบเร่แผงลอยคนไทยที่อยู่บริเวณหน้าชายหาดให้ชัดเจน โดยมอบให้เป็นหน้าที่ของทางฝ่ายปกครองอำเภอเมืองภูเก็ต เทศบาลตำบลกะรน และคณะกรรมการหมู่บ้านทำการพิจารณา เพื่อควบคุมจำนวนให้คงที่และการจัดระเบียบต่างๆ โดยให้เวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ให้เทศบาลตำบลกะรนร่างเทศบัญญัติหรือระเบียบปฏิบัติสำหรับหาบเร่แผงลอยให้ชัดเจน 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น