จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

ศุลกากรจับ 2 เรือทูน่าลักลอบขนน้ำมันเถื่อน



เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2555 ที่ท่าเทียบเรือด่านศุลกากร ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายราฆพ ศรีศุอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร พร้อมด้วยนางนันท์ฐิตา คงเมือง นายด่านศุลกากรภูเก็ต นายนิมิตร แสงอำไป ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนและปราบปราม 2 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงสัญชาติไต้หวัน จำนวน 2 ลำ
บรรทุกน้ำมันลักลอบหนีศุลกากรจำนวน 47,000 ลิตร และผู้ต้องหาเป็นกัปตันเรือสัญชาติไต้หวัน และลูกเรือสัญชาติไต้หวันและอินโดนีเซีย รวมจำนวน 12 คน


ทั้งนี้นายราฆพ ศรีศุอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม ได้กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรมศุลกากรได้เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามขบวนลักลอบนำสินค้าที่ยังไม่ได้เสียภาษีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร ประเภทน้ำมัน และผลิตภัณฑ์น้ำมัน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตราภาษีสูงและต้องควบคุมคุณภาพของสินค้า

จนกระทั้งเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 22 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม 4 พร้อมด้วยเรือศุลกากร 367 ได้ออกลาดตระเวน เพื่อเฝ้าระวัง และตรวจสอบผู้ที่กระทำความผิด จนกระทั่งลาดตระเวนมาถึงบริเวณแลตติจูด 07 องศา 50 ลิปดา 00 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 25 ลิปดา 10 ฟิลิปดาตะวันออก ห่างเกาะตะเภาใหญ่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ด้านทิศเหนือประมาณ 1-2 ไมล์ทะเล พบเรือประมงทูน่าของต่างชาติ จำนวน 2 ลำ จึงได้ขอเข้าทำการตรวจค้น

โดยเรือลำแรกชื่อ Ching Chunfa No.168 ขนาด 64.03 ตันกรอส สัญชาติไต้หวัน มีนาย WANG YAO YU สัญชาติไต้หวัน เป็นกัปตันเรือ และลูกเรือสัญชาติอินโดนีเซีย จำนวน 3 คน จากการตรวจค้นพบช่องสำหรับเก็บปลาจำนวน 4 ช่องได้ถูกดัดแปลงเป็นช่องเก็บน้ำมัน และจากการตรวจสอบเป็นน้ำมันดีเซล

ส่วนอีกลำชื่อ Ming Chi Tsai No.16ขนาด 55.59 ตันกรอส สัญชาติไต้หวัน มีนาย HUANG, CHIANG -HSIEH สัญชาติไต้หวัน เป็นกัปตันเรือ ลูกเรือสัญชาติไต้หวัน จำนวน 3 คน และลูกเรือสัญชาติอินโดนีเซียอีกจำนวน 4 คน จากการตรวจค้นพบช่องสำหรับเก็บปลาจำนวน 4 ช่องได้ถูกดัดแปลงเป็นช่องเก็บน้ำมัน และจากการตรวจสอบเป็นน้ำมันดีเซล โดยเรือทั้ง 2 ลำบรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบหนีศุลกากร จำนวนรวม 47,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 1,400,000 บาท รวมมูลค่าของกลางทั้งเรือและน้ำมันประมาณ 21,000,000 บาท

และจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าเรือทั้ง 2 ลำ ได้ลักลอบนำน้ำมันมาจากประเทศไต้หวัน แต่ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าเรือทั้ง 2 ลำได้นำน้ำมันมาจากประเทศอินโดนีเซียมากกว่า เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับเรือประมงทั่วไป หรือมาจำหน่ายให้กับท่าเรือต่างๆ ที่รับซื้อ เนื่องจากในปัจจุบัน ราคาน้ำมันดีเซลมีราคาแพงกว่าราคาในต่างประเทศ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตามมาตรา 27, 27 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16 , 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลการ(ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และได้นำของกลางเรือประมง บรรทุกน้ำมัน และน้ำมันดีเซล กัปตันเรือพร้อมลูกเรือดังกล่าวส่งด่านศุลกากรภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น