จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แถลงข่าวชาวต่างชาติฉกเพชร มูลค่า 30 ล้านบาท



เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต, พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิต รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ๋งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม
รวมถึงนายธงศักดิ์ จินตการฤกษ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195/16 ม.4 ต.จันนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี ผู้เสียหายเจ้าของจิวเวลรี่มูลค่า 30 ล้านบาท


ที่ถูกคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ที่จอดไว้บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ภูเก็ต ถนนบางใหญ่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายรูเบ็น ดาร์โอ ซาปาต้า กอนซาเลช Mr.RUBEN DARIO อายุ 41 ปี สัญชาติเม็กซิโก และ น.ส.โรสลิน่า บินติ อาบู บาคาร์ (Miss.ROSLINA BINTI ABU BAKAR) สัญชาติ มาเลเซีย 


พร้อมด้วยของกลางจำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย ต่างหูเพชร – พลอย 30 คู่, สร้อยคอเพชร – พลอย 21 เส้น, หัวเข็มขัดเพชร – พลอย 1 อัน, เข็มกลัดเพชร – พลอย 1 อัน, สร้อยข้อมือเพชร – พลอย 1 เส้น, จี้เพชร – พลอย 21 อัน, แหวนเพชร – พลอย 130 วง, กำไลเพชร – พลอย 4 ชิ้น, พลอยกล่อง 38 กล่อง, พลอยเม็ด 182 ชุด และเข็มกลัดชุดระย้า 1 ชุด จำนวน 3 ชิ้น รวมทั้งหมดจำนวน 430 ชิ้น จากจำนวนทรัพย์สินที่แจ้งหายไว้ 600 ชิ้นโดยได้หายไป170 ชิ้น มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท พร้อมด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีบอร์นเงิน หมายเลขที่ทะเบียน ฌท-9670 กทม. โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม


นอกจากนี้ในส่วนของผู้ต้องหาอีก 2 คน โดยคนแรก คือ นายบัลคาน ริซา (Mr. BALKAN LIZA) อายุ 49 ปี สัญชาติตุรกี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองตรัง ได้ขออายัดตัวเพื่อดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ และยาเสพติดประเภท 5 กัญชา ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาอีกราย คือ MARIA ASSENETH MEJIA ZULUAGA อายุ 57 ปี สัญชาติเม็กซิโก ได้หลบหนีไปภายหลังขอเข้าห้องน้ำที่บริเวณสำนักงานทางหลวงตรัง ขณะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 


ทั้งนี้พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.55) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายคาดว่าน่าจะเป็นชาวต่างชาติทุบกระจกรถยนต์แล้วขโมยกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ซึ่งภายในมีเครื่องประดับเพชรราคากว่า 30 ล้านบาท และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกหาข่าวเกี่ยวกับคนร้ายรายนี้โดยด่วน


จนกระทั่งตรวจสอบจากบริเวณที่เกิดเหตุพบกล้องวงจรปิด ในโรงแรมบ้านสวนเพลส และร้านสะดวกซื้อบริเวณใกล้เคียง พบรถยนต์คันที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฌท- 9670 กรุงเทพมหานคร ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถของโรงแรมภูเก็ตพาเลส ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จากนั้นคนร้ายได้ว่าจ้างนายฉกรรจ์ สวนขันธ์ ขับรถยนต์ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กค-9202 ภูเก็ต ในราคา 6,000 บาท ให้ไปส่งที่ จ.สงขลา เพื่อจะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย 


จึงได้ประสานไปยังสถานตำรวจต่างๆ ให้ช่วยสกัดจับรถต้องสงสัย จนกระทั่งตำรวจทางหลวง จ.ตรัง สามารถจับกุมได้ที่บริเวณกม.3-4 ทล.4046 หน้าโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยตรัง ม.4 ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ติดตามผู้เสียหายมาเป็นเวลา 2 วันก่อนลงมือก่อเหตุ 


ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวด้วยว่า ชาวต่างชาติแก็งนี้เป็นแก็งค์คนร้ายข้ามชาติที่จะก่อเหตุฉกเพชรตามงานโชว์เพชรต่างๆ ทั่วโลก โดยจะเข้าไปแฝงตัวดูลาดเลา และมีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี มีการแต่งตัวอำพรางปิดบังใบหน้า มีสวมวิกผม เปลี่ยนสีผม เปลี่ยนรถยนต์เพื่อให้ยากแก่การจับกุม โดยจะมีการจดบันทึกรายละเอียดของงานจัดแสดงโชว์เครื่องประดับต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย เป็นต้น และจะมีการติดตามเจ้าของทรัพย์สิน เมื่อสบโอกาสก็จะก่อเหตุ จากนั้นก็หลบหนีไปยังประเทศอื่นเพื่อแบ่งทรัพย์สินที่ได้มา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าคนร้ายกลุ่มนี้เคยก่อเหตุที่ในเขตตำรวจนครบาลมาแล้ว 1 ครั้ง


ด้านนายธงศักดิ์ จินตการฤกษ์ เจ้าของจิวเวลรี่ ได้กล่าวถึงการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ ว่า ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้มีการทุ่มเทกำลังทำงานอย่างเต็มที่ มีการประสานงานกันจนสามารถจับกุมคนร้ายและได้ทรัพย์สินคืนมาในเวลาอันรวดเร็ว และต้องยอมรับว่าตำรวจไทยก็มีฝีมือ เพราะจากที่ได้มีการพุดคุยกับเพื่อนผู้ประกอบการด้วยกันบอกว่าเหตุการณ์เช่นนี้เป็น 1 ในล้านที่จะจับกุมคนร้ายและได้ทรัพย์สินคืนมา ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็ไม่กลัวและไม่หวาดผวา หากในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีการงานจิวเวลรี่ก็จะเดินทางมาออกบู๊ท อีก แต่จะเพิ่มความระมัดระวังในการเก็บทรัพย์สินให้มากขึ้น


อย่างไรก็ตามหลังจากแถลงข่าวแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังสถานที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสถานที่พักของผู้เสียหาย ก่อนที่จะหลบหนีไปเปลี่ยนรถที่ป่าตองและเดินทางไปต่างจังหวัด 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น