จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บุกค้นบ้านเช่าได้เงินของกลางคืน 2.5 ล้านบาท



จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายไทยสูงประมาณ 165 เซนติเมตร สวมเสื้อแจ็สเก็ตสีดำ นุ่งกางเกงยีนต์ สวมหมวกกันน๊อดแบบครึ่งใบ และมีหน้ากากสีดำ ถืออาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ลูกซองสั้น) บุกเดียวเข้าปล้นจี้ชิงเงิน จากนางสาวศศิวิมล กล้ากิจ อายุ 28 แคชเชียร์ใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี ม.6 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเงินสดไปจำนวน 2 ล้าน 7 แสนบาท แล้วหลบหนีโดยรถจักรยานยนต์ไปนั้น 


เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สารวัตรสืบสวนสืบสวน สถานีตำรวจเมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้นำหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 63/67 หมู่ที่ 1 ซอยเกาะแก้ว 3 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต 


ซึ่งเป็นห้องแถวให้เช่าที่ นายอนุศิษฎ์ แก้วมุกดา อายุ 31 ปี ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน บ้านเลขที่ 728/8 หมู่ที่ 1 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ต้องสงสัยว่า จะเป็นคนที่ลงมือใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงิน จากนางสาวศศิวิมล กล้ากิจ อายุ 28 แคชเชียร์ใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี ม.6 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยเงินสดไปจำนวน 2 ล้าน 7 แสนบาท เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยบ้านหลังดังกล่าวได้เช่าอาศัยอยู่กับภรรยา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบปากคำก่อนหน้านี้ 


จากการตรวจค้นภายในบ้านเช่าหลังดังกล่าว พบเงินสดจำนวน 2.5 ล้านบาท ใส่อยู่ในถุงผ้าที่ขาวที่ใช้ในวันก่อเหตุ และใส่ไว้ในถุงดำอีกชั้นหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ในกองเสื้อผ้าหลังบ้าน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้พบอาวุธปืนลูกซองสั้นที่ใช้ในวันก่อเหตุ ซุกซ้อนอยู่หลังโต๊ะเครื่องแป้งภายในตัวบ้าน แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้รวยรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อขอออกหมายจับกับทางศาลจังหวัดภูเก็ตต่อไป 


ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจนับเงินอยู่นั้น ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ของธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาโลตัส พาร์ค ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก อ.เมือง ภูเก็ต ซึ่งสาขาดังกล่าว ก็ได้มีคนร้ายในลักษณะที่คล้ายๆ กัน เข้าไปใช้อาวุธปืนจี้พนักงานให้เอาเงินใส่ถุงผ้าที่เตรียมมาด้วยเช่นกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2555 โดยในครั้งนั้นคนร้ายได้เงินไปจำนวน 694,000 บาท โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ธนาคาร คาดว่าน่าจะเป็นลักษณะของคนร้ายที่คล้ายกัน และจากการตรวจสอบบัญชีของชื่อที่ทางเจ้าหน้าที่ให้มาก็พบว่า เคยเปิดบัญชีกับทางธนาคาร แต่ก็ได้ปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้ว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น