เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.จุตติ ธรรมโนวานิช คณะทำงานการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ นายไพศาล หนูพิชัย หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.2 (ภูเก็ต) และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.ภูเก็ตจำนวนกว่า 20 นายได้เดินทางเข้าตรวจสอบปัญหาการบุกรุกที่ดินในจังหวัดภูเก็ต
โดยจุกแรกได้เข้าตรวจสอบที่ดินเนื้อที่กว่า 19 ไร่ริม ถ.พระบารมี ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าอาจมีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ จากนั้นได้นำเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาและตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย
ในฐานะกำกับดูแลการตรวจสอบที่ดินที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายทั้งประเทศได้สั่งการให้คณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยที่ดินแปลงดังกล่าวกำลังมีปรับพื้นที่เป็นชั้นๆ เพื่อก่อสร้างโรงแรมระดับห้าดาวหรูบนเนินเขา สามารถมองเห็นอ่าวป่าตองได้อย่างสวยงาม ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวมีมูลค่านับร้อยล้านบาทเมื่อก่อสร้างโรงแรมเสร็จสิ้น
จากนั้นทางคณะชุดเฉพาะกิจฯ ได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณแหลมสน ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เป็นจุดที่สอง ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างเป็นโรงแรมขนาดเนื้อที่กว่า 30 ไร่ โดยจากการตรวจสอบพบ คนงานจำนวนมากกำลังก่อสร้างอาคารชุด รวมทั้งยังมีการปรับหน้าที่ให้เป็นพื้นเรียบ พร้อมกับมีการขึ้นป้ายโฆษณาเตรียมที่จะเปิดเป็นสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนำเครื่อง GPS ไปตรวจสอบเช่นกัน ปรากฏว่า พื้นที่แห่งนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 78 เมตร ยังไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
พร้อมกันนี้ทางเจ้าของที่ดินดังกล่าวได้เข้ามาร่วมพูดคุยกับทางคณะฯ จึงมีการตกลงกันว่า ในวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย.นี้ ทางเจ้าหน้าที่จะร่วมกับบริษัทฯ ยิง GPS ระบุตำแหน่ง เพื่อตรวจสอบว่า พื้นที่แห่งนี้อยู่ในเขตป่าสงวนเทือกเขากมลาหรือไม่ รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบความลาดชันและความสูงของที่ดินว่า เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า เมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอได้ดำเนินการตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวมาแล้ว จากนั้นได้ส่งเรื่องให้กับกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ทำการเพิกถอนโฉนด ซึ่งขั้นตอนก่อนที่กระทรวงมหาดไทยจะเพิกถอนนั้นจะต้องลงมาตรวจสอบพื้นที่และข้อเท็จจริง
เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดินว่าได้มาจาก ส.ค.1 หรือ นส.3 จากการตรวจสอบด้วยสายตา ที่ดินแปลงดังกล่าวไม่น่าจะออกเอกสารสิทธิ์ได้ เนื่องจากความลาดชันของภูเขาไม่สามารถที่จะออกโฉนดได้ ซึ่งจะเก็บข้อมูลต่างๆ นำกลับแจ้งต่อนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทยในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดิน เพราะเป็นหน่วยงานที่ออกโฉนด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น