จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สภาพัฒนาการเมือง เปิดเวทีให้ความรู้องค์กรชุมชนภูเก็ต



เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 ที่ห้องประชุมโรงแรมเพิร์ลภูเก็ต คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง การกระจายอำนาจ และเครือข่ายภาคประชาสังคม สภาพัฒนาการเมือง ร่วมกับสภาพัฒนาการเมืองจังหวัดภูเก็ต จัดสัมมนา เรื่อง “การมีส่วนร่วมของชุมชนกับท้องถิ่นในการจัดทำร่างข้อบัญญัติ” 


โดยมีนายกษิดิ์เดชธนทัต เสกขุนทด รองประธานสภาพัฒนาการเมือง คนที่ 1 นายเวกวรพันธ์ ฉ่ำสันเทียะ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการเมืองภาคพลเมืองการกระจายอำนาจและเครือข่ายภาคประชาสังคม สภาพัฒนาการเมือง นายปรีดี โชติช่วง รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเมือง นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น สมาชิกสภาพัฒนาการเมืองจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนคณะทำงานเครือข่ายประชาสังคมจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภาองค์กรชุมชน 18 ตำบล และหน่วยงานภาคีทุกภาคส่วน เข้าร่วม 


นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น สมาชิกสภาพัฒนาการเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดสัมมนาดังกล่าว เพื่อต้องการให้สมาชิกสภาองค์กรชุมชนได้เรียนรู้กระบวนการจัดทำร่างข้อบัญญัติหรือธรรมนูญชุมชนอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในตำบล เพื่อนำไปสู่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง โดยจังหวัดภูเก็ตมีพื้นที่นำร่องในปี 2556 จำนวน 10 ตำบล 


ประกอบด้วยเทศบาลตำบลป่าคลอก เทศบาลตำบลวิชิต เทศบาลนครภูเก็ต ตำบลฉลอง เทศบาลตำบลราไวย์ เทศบาลเมืองกะทู้ ตำบลเกาะแก้ว เทศบาลเมืองป่าตอง ตำบลเชิงทะเลและตำบลศรีสุนทร, เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากพื้นที่ที่ได้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมไปแล้ว คือ ตำบลบางวัน อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้หลักคิดการเมืองภาคพลเมืองสู่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง และเพื่อให้เกิดปฎิทินการดำเนินการจัดทำร่างข้อบัญญัติในพื้นที่ 


อย่างไรก็ตามสำหรับสภาชุมชุนตำบลของจังหวัดภูเก็ต ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการจัดทำเวทีสร้างความเข้าใจกระบวนการจัดทำข้อบัญญัติ และในส่วนของสภาองค์กรชุมชนเทศบาลเมืองป่าตอง ก็ได้มีการเปิดเวทีระดมความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ป่าตอง เพื่อนำเสนอต่อเทศบาลเมืองป่าตอง ได้แก่ ให้มีการจัดทำโซนวัฒนธรรมใน 2 พื้นที่ คือ หน้าวัดสุวรรณคีรีวงศ์ –น้ำตกวังขี้อ้อน (ถนนพิศิษฐ์กรณีย์) กับ หน้าวัดสุวรรณคีรีวงศ์-สุเหร่าล่าง (ถนนพระบารมี)


โดยกำหนดให้เป็นเขตปลอดสถานบันเทิง (เหล้าเบียร์ คาราโอเกะ) กำหนดให้เป็นถนนสายศาสนา เพื่อการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ให้มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย นอกจากนี้ยังขอให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการสาธารณะสถาน เช่นสวนสาธารณะโลมาให้เป็นปอดของคนป่าตอง ในรูปแบบที่คนป่าตองต้องการ เช่น ปลอดถังขยะ, งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด, สนับสนุนให้เรียกชื่อสวนสาธารณะโลมา ว่า สวนพลับพลาโลมา” เพื่อระลึกถึงการเสด็จเยือนป่าตองของรัชกาลที่ 9, ให้กันพื้นที่จนถึงสนามฟุตบอลแหลมเพชร,ปลอดบุคคลเร่ร่อนจรจัด, กำหนดเป็นเขตปลอดบุหรี่ 


นอกจากนี้ยังได้มีข้อเสนอต่อจังหวัด โดยขอให้กันพื้นที่หาดกะหลิม ตลอดแนว โดยให้ปลอดร่มเตียง หรือควบคุมปริมาณร่มเตียง กำหนดให้เป็นพื้นที่สาธารณะ รักษาความสะอาด ห้ามค้าสุรา, กันพื้นที่หัวสะพานคอรัลบีชให้เป็นพื้นที่สาธารณะอย่าให้บุคคลมาจับจอง เป็นต้น ให้มีคณะกรรมการป่าตองบูรณาการภาครัฐ ภาคประชาชน ชมรม สมาคมของเมืองป่าตองโดยเฉพาะ เช่น สมาคม สมัชชา ประชาคม เป็นต้น โดยตรงไม่ต้องผ่านจังหวัดหรือหน่วยงานให้เกิดความล่าช้าหรือไม่ตรงจุด และการเพิ่มแหล่งน้ำ 


อย่างไรก็ตามข้อเสนอต่างๆ นั้นจะเริ่มด้วยการนำข้อเสนอต่างๆ ผ่านทางเทศบาลเมืองป่าตอง เพื่อออกเป็นข้อบัญญัติหรือเทศบัญญัติเพื่อบังคับใช้ รวมทั้งการนำเสนอผ่านทางจังหวัด โดยเฉพาะประเด็นที่จะขอให้มีการแต่งตั้งตัวแทนขององค์กรชุมชนเข้าไปเป็นคณะกรรมการในระดับจังหวัด เช่น กรอ. คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม เป็นต้น นายปรีชาวุฒิ กล่าว 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น