จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รมช.คมนาคม ยาหอมคนภูเก็ตพร้อมแก้ปัญหาจราจร



นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในการเป็นประธานและบรรยายพิเศษ การเสวนาเรื่อง “การคมนาคมภูเก็ตก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ซึ่งสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต จัดขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยน รับฟังความคิดเห็น และวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับสภาพการจราจรปัจจุบันของจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งมุ่งหวังให้เกิดนโยบายซึ่งนำมาสู่การพัฒนา และปรับปรุงระบบคมนาคมจังหวัดภูเก็ต พร้อมตั้งรับการเข้าสู่เศรษฐกิจประชาคมอาเซียนในปี 2558 


เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 56 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน ว่า เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วภูเก็ตวันนี้ถือเป็นหน้าตาของประเทศไทย และเป็นจังหวัดหลักที่มีนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก ในฐานะที่ทำงานอยู่ในกระทรวงคมนาคม ได้ทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับการจราจรในจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างดี ซึ่งมีความหนาแน่นและรถติดพอสมควร จากการลงพื้นที่และได้โอกาสเดินทางไปรอบตัวเมืองภูเก็ต พบว่ามีปัญหาจริงตามที่ได้มีการรับฟังมา และนับวันจะทวีคูณมากขึ้น 


“ตนได้รับการมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาดูแลแก้ปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต ที่ผ่านมา นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต ได้มีการอภิปรายปัญหาของภูเก็ตในสภาฯ มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสนามบิน หรือปัญหาการจราจรของภูเก็ต ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น นับเป็นโอกาสดีที่ได้ลงมาในพื้นที่ครั้งนี้ โดยนโยบายหนึ่งที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม 


คือทำอย่างไรให้ระบบโลจิสติกส์ในภาพรวมของประเทศเป็นไปอย่างมีต้นทุนต่ำที่สุด ลดการใช้พลังงาน และลดอุบัติเหตุ โดยประชาชนมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น เพราะใช้เวลาในการเดินทางน้อยลง ปัจจุบันประเทศไทยมีการเดินทางทางบกมีประมาณ 80% ทางน้ำประมาณ 12% ที่เหลือเป็นการเดินทางทางอากาศและอื่นๆ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการเดินทางทางน้ำเป็น 19% ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการเดินทาง ขนส่งและท่องเที่ยว ภายในเวลา 5 ปีต่อจากนี้ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง” 


นายประเสริฐ กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ด้วยขนาดของพื้นที่ดูไม่ใหญ่ แต่สิ่งที่มีคือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคการท่องเที่ยวและบริการ โดยมีประชากรตามทะเบียนบ้านประมาณ 3.5 แสนคนเศษ แต่สิ่งที่กังวล คือ ประชากรแฝงที่มาจากทุกภาคของประเทศ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่าคนท้องถิ่น สิ่งที่สำคัญ คือ ภาคการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วม 9-10 ล้านคนต่อปี ทั้งทางอากาศ ทางน้ำและทางบก จึงทำให้ในแต่ละปีชุมชนจะต้องรองรับการคมนาคมที่เพิ่มมากขึ้น 


มีการจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคสินค้าต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ทราบว่าแต่ละเดือนภูเก็ตจะมีรถจดทะเบียนใหม่มากถึง 1,500 คัน จึงต้องหาทางแก้ปัญหา เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไปข้างหน้าชุมชนแห่งนี้จะมีปัญหาเรื่องมลภาวะ และเป็นชุมชนไม่มีความสุข ฉะนั้นก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นอยากเห็นชุมชนแห่งนี้มีความสุข คนต่างประเทศเดินทางมาแล้วมีความรู้สึกที่ดี กลับไปแล้วก็บอกต่อ เพราะจากสถิติพบว่าคนที่มาภูเก็ตมักจะมาแล้วจะมาซ้ำอีก เพราะความมีเสน่ห์และของภูเก็ต


อย่างไรก็ตามนายประเสริฐ กล่าวว่า การมาที่ภูเก็ตเพื่อมาแก้ปัญหาปัญหาจราจร แบ่งเบาภาระพื้นที่บางส่วนตามที่สามารถสั่งการได้ ซึ่งหลังจากลงเครื่องและเข้าสู่สนามบิน พบว่าคนแน่นมาก โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการขยายสนามบินซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว และรัฐบาลชุดนี้ก็ยังให้ความสำคัญ ด้วยวงเงินกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร หนึ่งในการพัฒนาคือ การเพิ่มหลุมจอดจาก 5 หลุมจอดเป็น 10 หลุมจอด แต่สิ่งสำคัญ คือ เรื่องความต่อเนื่องของการเดินทาง เพราะสนามบินแห่งนี้อยู่ติดชายทะเล และมีพื้นที่ของวิทยาการบิน ทางกรมเจ้าท่า จึงได้เสนอโครงการเปิดเส้นทางเดินเรือ โดยจัดทำโครงการลงเรือ-ขึ้นเครื่อง หรือลงเครื่อง-ขึ้นเรือ 


เป้าหมายแรก สนามบินภูเก็ต- ป่าตอง ระยะทางทางน้ำประมาณ 25 กิโลเมตร หากโดยสารด้วยสปี้ดโบ๊ทจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที และหากเป็นเรือโดยสารใช้เวลาไม่เกิน 40 นาที เมื่อเทียบกับการเดินทางถนน ซึ่งมีระยะทาง 50 กิโลเมตร หากรถไม่ติดจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง แต่หากรถติดอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที อาจทำให้ผู้สัญจรไปมาหงุดหงิดและรู้สึกว่าใช้เวลาที่ภูเก็ตไม่คุ้มค่า โดยได้มีการออกแบบคร่าวๆ ไว้แล้วส่วนหนึ่ง แนวของท่าลึกลงไปทะเลประมาณ 250 เมตร มีเทอมินัลบริเวณชายฝั่ง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 200 กว่าล้านบาท และมีความเป็นไปได้สูง เพราะตัวของท่าเทียบเรืออยู่ไม่ห่างจากสนามบินมากนัก จากจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 26,000 คนต่อวัน มาใช้บริการทางเรือประมาณ 10% หรือประมาณ 2,600 คน หลังจากนั้นค่อยขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไปในอนาคต 


ในส่วนของทางบกพบว่า เส้นทางหลักหรือถนนเทพกระษัตรีจากสนามบินมายังตัวเมืองภูเก็ต มีความหนาแน่นมาก โดยเฉพาะบริเวณทางแยกต่างๆ เช่น อนุสวรีย์ฯ, โลตัส, ดาราสมุทร เป็นต้น และจากการพบกับนายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ทราบว่ามีถนนสาย 4050 ซึ่งติดกับแยกทางหลวงสาย 4020 เดิมเป็นถนนดินไม่สามารถสัญจรไปมาได้ มีความยาว 1.25 กิโลเมตร หากก่อสร้างจะใช้งบประมาณไม่ถึง 10 ล้านบาท แต่สามารถแบ่งเบาการจราจรบนเส้นทางหลักที่จะไปป่าตองหรือแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ด้วย จึงมีความสำคัญเช่นกัน และได้มีการออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว


อีกจุดคือ แนวก่อสร้างถนนสายคลองเกาะผี ซึ่งต้องตัดผ่านป่าชายเลน ระยะทางประมาณ 600 เมตร ซึ่ง กรมทางหลวงชนบทได้ตั้งงบประมาณไว้แล้วจำนวน 170 ล้านบาท มีการประกวดราคาไปแล้ว 1 ครั้ง แต่หาผู้รับจ้างไม่ได้ จึงได้มีการปรับปรับปรุงเรื่องของค่าแรงและอื่นๆ และได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มอีกประมาณ 6 ล้านบาทเศษ รวมงบประมาณ 176.6 ล้านบาท อยู่ระหว่างการประกวดราคา เมื่อได้ผู้รับจ้างแล้วก็จะดำเนินการทันที โดยใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี และสะพานยาวประมาณ 700 เมตร จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรบนตัวเมืองภูเก็ตได้ในระดับที่มากพอสมควร และยังมีถนนอีกหลายสายซึ่งเป็นสายสั้นๆ ที่เป็นทางลัดหรือเชื่อมต่อซึ่งน่าจะดำเนินการ หากใช้งบประมารไม่มาก และอยู่ในอำนาจของตนก็พร้อมที่จะอนุมัติให้ดำเนินการทันที และบางส่วนก็อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น แยกดาราสมุทร เป็นต้น ซึ่งในระยะเวลาที่ก่อสร้างอาจจะมีปัญหาความไม่สะดวกบ้าง แต่หลังจากก่อสร้างเสร็จก็จะดีขึ้น นายประเสริฐกล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น