เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา เรื่อง การจัดทำทะเบียนเอกสารมรดกความทรงจำแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ซึ่งทางคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลก กระทรวงศึกษาธิการจัดขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม
ศ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประธานคณะอนุกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลก กล่าวถึงรายละเอียดของการจัดการประชุมว่า สืบเนื่องจากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ดำเนินโครงการมรดกความทรงจำแห่งโลก (Memory of the World Programme :MOW) ตั้งแต่ พ.ศ.2535 หากประเทศใดมีมรดกความทรงจำชิ้นที่มีค่าสมควรแก่การขึ้นทะเบียนในระดับโลกสามารถนำเสนอไปยังยูเนสโกเพื่อพิจารณาตัดสิน และประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำที่สมควรอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าต่อไป
“การจัดประชุมสัมมนาในลักษณะดังกล่าวได้ดำเนินการมาแล้ว 7 ครั้ง โดยจัดที่กรุงเทพมหานคร 2 ครั้ง จังหวัดลำปาง จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดลำพูน จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดอุบลราชธานี ตามลำดับ และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ระดมความรู้ ความคิดเห็นของนักวิชาการ บุคลากรจากหน่วยงาน ประชาชน และเพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนา เพื่อให้สามารถกรอกแบบกรอกข้อความ
และนำเสนอขึ้นทะเบียนเป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งชาติ สะท้อนถึงมรดกภูมิปัญญาไทย และเป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ วิจัย และอนุรักษ์เอกสารสำคัญมิให้สูญหายหรือถูกทำลายไป ตลอดจนเป็นข้อมูลในการพิจารณานำเสนอเอกสารมรดกความทรงจำแห่งชาติ ต่อองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ โดยบางรายการอาจได้รับการพิจารณาเสนอให้เป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลกแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลกในลำดับต่อไป” ศ.ดร.ประเสริฐกล่าว
สำหรับประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลก เมื่อปี 2545 โดยได้มีการคัดเลือกและศึกษาเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อนำเสนอยูเนสโกตามลำดับ ได้แก่ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2546 ได้เสนอศิลาจารึกพ่อขุดรามคำแหงมหาราช และได้รับการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก, เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 ได้เสนอจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งความทรงจำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ต่อมาหลังจากที่คณะกรรมการแห่งชาติฯ ได้ศึกษาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคารามอย่างถี่ถ้วนแล้ว และได้นำเสนอยูเนสโกอีกครั้งเมื่อปี 2554 และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 และเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2552 ยูเนสโกได้พิจารณาขึ้นทะเบียนเอกสารการปฎิรูปราชการแผ่นดินในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าอยู่หัว ระหว่าง พ.ศ.2411-2453 ที่เก็บรักษา ณ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และสำนักหอสมุดแห่งชาติ เป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น