เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2557 ที่บริเวณโค้งสามแยก หน้าวัดสุวรรณคีรีวงศ์ ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต, นายสันต์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภูเก็ต
นอกจากนี้ยังมีนายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงการทางภูเก็ต, นายธีรยุทธ์ ประเสริฐผล ผู้อำนวยการขนส่งจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.จิระภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก. สภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ เทศบาลเมืองป่าตอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นจุดเสี่ยงและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นสามแยกที่มาจากตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นทางโค้งลงจากเขาและมีความลาดชัน ประกอบกับมีปริมาณรถที่สัญจรไปมาจำนวนมาก ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุรถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวเสียหลักพุ่งชนรถยนต์กระบะ รถยนต์เก๋ง และรถจักรยานยนต์จำนวนรวม 8 คัน ได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 26 ราย
ทั้งนี้หลังจากสำรวจพื้นที่และหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาในเบื้องต้นแล้ว ได้นิมนต์พระสงฆ์มาปะพรมน้ำมนต์บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และทำบุญถวายอาหารเพลพระภิกษุสงฆ์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่อยู่ในบริเวณกล่าว รวมทั้งเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในบริเวณดังกล่าวด้วย
นายไมตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่าบริเวณสามแยกดังกล่าวจะมีปริมาณการจราจรหนาแน่นมาก ซึ่งนอกจากรถยนต์ประเภทต่างๆ และรถจักรยานยนต์แล้ว พบว่า มีรถบัสโดยสารบรรทุกนักท่องเที่ยวขึ้นลงเป็นจำนวนมากเช่นกัน ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้งและมีความลาดชัน ทำให้รถต้องใช้เบรคและครัชมากกว่าปกติ ซึ่งในการแก้ปัญหานั้นได้มอบหมายให้ทาง สภ.กะทู้ หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แขวงการทาง ขนส่ง เทศบาลเมืองป่าตอง เป็นต้น เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ
โดยอาจจะมีการปรับระบบการจราจร เช่น จัดเดินรถลงเขาทางเดียว (วันเวย์) ในเส้นทางถนนพระบารมีมุ่งหน้าไปยังชุมชนบ้านมอญ ทะลุยังไปยังถนนนาใน เพื่อให้รถที่ลงมาจากเขาป่าตองไม่ต้องจอดรอเลี้ยวขวา แต่อย่างไรก็ตามจะต้องหารือในรายละเอียดถึงความเป็นไปได้อีกครั้ง การปรับปรุงด้านวิศวกรรมจราจร ซึ่งสามารถทำได้เลย ทราบว่าทางแขวงภูเก็ตมีงบประมาณในการขยายพื้นผิวจราจรถนนบนเขาป่าตองเพิ่มอีกกว่า 10 ล้านบาท หลังจากที่ได้รับงบประมาณ 22 ล้านบาท แก้ไขปัญหาดินสไลด์บนเนินเขาป่าตองแล้วเสร็จ
“นอกจากที่กล่าวมาแล้วทางจังหวัดได้กำหนดมาตรการในการแก้ปัญหาดังกล่าวไว้ 9 มาตรการ คือ 1.ห้ามรถบัส /รถบรรทุกทุกคันขึ้นเขาป่าตอง แต่ให้ใช้วิธีถ่ายคนไปกับรถตู้แทน 2.จำกัดเวลาขึ้นเขาป่าตองของรถบัส /รถบรรทุก ในช่วงเร่งด่วน 2 ช่วง คือเวลาตั้งแต่ 06.00 - 09.00 น. และเวลาตั้งแต่ 16.00-19.00 น. 3.จำกัดอายุรถที่จะขึ้นเขาป่าตอง 4.ตั้งจุดตรวจถาวร 5.ปรับปรุงระบบจราจรบริเวณทางลงเขาป่าตองเพื่อให้การจราจรลื่นไหลมากขึ้นป้องกันรถติดบนเขา
6.จัดช่องจักรยานยนต์ขึ้นเขาโดยตีช่องเหลืองทางเลนซ้าย 7.ปรับช่องจราจรทางลงเขาโดยตีเส้นแดงเพิ่ม เส้นชะลอความเร็วสั้นๆ 8.กำหนดให้เดินรถทางเดียว รถบัส - รถบรรทุกให้ใช้ทางขาเข้าเส้นทางกมลา - กะรนแทน ส่วนขากลับเข้าเมืองสามารถใช้เส้นทางบนเขาป่าตองได้ และสุดท้าย บังคับใช้กฎหมายกับสถานประกอบการขนส่ง ท่องเที่ยว อย่างเข้มข้น โดยปรับอัตราสูงสุด 40,000 บาท หากตรวจพบสารเสพติด แอลกอฮอล์ในพนักงานขับรถ
โดยจะเริ่มในส่วนของมาตรการที่สามารถดำเนินการได้ก่อน เช่น การจัดทำช่องจราจรสำหรับรถจักรยานยนต์ เพิ่มความถี่ในการตรวจรถขนาดใหญ่ก่อนขึ้นเขาบริเวณจุดตรวจแยกสี่กอ การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในพนักงานขับรถ ตรวจสภาพรถ เป็นต้น ส่วนมาตรการห้ามรถบัส หรือรถขนาดใหญ่ขึ้น-ลงเขาป่าตองนั้นจะต้องมีการหารือกับภาคเอกชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้งว่าสามารถดำเนินการได้มากน้อยเพียงใด” นายไมตรี กล่าว
ด้านพล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า กรณีที่มีการเพิ่มช่องจราจรสำหรับรถจักรยานยนต์แล้ว ก็จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายควบคู่กันไปด้วย
ขณะที่นายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงการทางภูเก็ต กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2557 ทางแขวงการทางภูเก็ต ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อที่จะขยายถนนเพิ่มผิวจราจรบนเนินเขาป่าตอง ในจุดที่ห่างจากดินสไลด์ 500 เมตรให้ เป็นถนนสี่ช่องทางจราจรจากเดิมที่มีเพียง 3 ช่องจราจร
ระยะทางประมาณ 600 - 700 เมตร
ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2557 นี้ เพื่อให้การจราจรบนเขาป่าตองสะดวกมากขึ้น เพราะจากการสำรวจภาคสนามของแขวงการทางภูเก็ตในช่วงกลางวัน พบว่าปริมาณรถที่ผ่านเขาป่าตองทั้งขาไป-กลับ มีปริมาณมากถึงวันละ 25,000 เที่ยว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น