จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เตรียมเสนอให้ภูเก็ตเป็นศูนย์ตรวจฉี่

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2553 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ศตส.จ.ภูเก็ต ครั้งที่ 8/2553 โดยมีพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายศิริพัฒ พัฒกุล นายอำเภอกะทู้ นายวีระพงษ์ ไวทยวงศ์สกุล ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต และคณะกรรมการจากอีกหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมประชุม

โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นการติดตามผลการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมู่บ้าน/ชุมชนที่ปรากฏปัญหายาเสพติด ให้เป็นพื้นที่สีขาว ตามปฏิบัติการมหาดไทย Clean & seal ของ ศตส.จ.ภูเก็ตในห้วงเดือน ธ.ค.52-15 ส.ค.53 นั้นมีการประกาศเป็นพื้นที่สีขาวครบ 100% ในทุกหมู่บ้าน/ชุมชนของทั้ง 3 อำเภอ ซึ่งรวมมีจำนวนทั้งสิ้น 78 หมู่บ้าน 33 ชุมชน ขณะที่ผลการดำเนินงานในส่วนของการนำผู้เสพ/ผู้ติดเข้าบำบัดในระบบสมัครใจ ซึ่ง ศตส.จ.ภูเก็ต กำหนดให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ดำเนินการนำผู้เสพ/ผู้ติดเข้าระบบบำบัดแบบสมัครใจในปีงบประมาณ 2553 โดยมีเป้าหมาย 300 ราย ปรากฏว่า สำนักงานสาธารณสุขสามารถดำเนินการได้เกินเป้าที่กำหนด จำนวน 307 คน ผู้ที่เข้าระบบบำบัดส่วนใหญ่จะเป็นเพศชาย อายุตั้งแต่ 16 – 27 ปี มีอาชีพรับจ้าง ส่วนประเภทของยาเสพติดที่เข้ารับการบำบัดจะเป็นยาบ้า

นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการประชุมว่า ถึงแม้จะหมดนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามปฏิบัติการ มหาดไทย Clean & seal ของกระทรวงมหาดไทยแล้ว ก็ขอให้ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องพยายามทำให้ต่อเนื่อง อย่าละความพยายาม อย่าท้อถอย ยังคงขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวตลอดไป เพราะเมื่อยาเสพติดเข้ามาแล้ว สังคมเราไปไม่รอด ก็ขอฝากให้ความสำคัญในเรื่องนี้ให้มากๆ และตนถึงแม้จะเหลือการทำงานเพียงเดือนเดียวก็จะพยายามให้ทำงานด้านนี้ให้เต็มที่เช่นเดียวกัน และขอฝากให้ทุกหน่วยทำงานกับผู้ว่าฯ คนใหม่อย่างจริงจัง แข็งขันต่อไปด้วย

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยังได้กล่าวถึงการขอให้จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์ในการตรวจยืนยันสาสารเสพติดในปัสสาวะ ว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ท่านพิจารณาให้จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์ฯ ดังกล่าว โดยทางจังหวัดจะสนับสนุนทั้งด้านงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ และบุคลากรให้ ซึ่งได้ขอผ่านไปทางรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยไปแล้วในเรื่องของอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการตรวจยืนยันหาสารเสพติดในปัสสาวะได้มากขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น