จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

กก.มั่นคงทัพเรือภาคที่ 3 บูรณาการความร่วมมือ

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2553 ที่ห้องธรรมรินทร์ เบย์ โรงแรมเคปพันวา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงศ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 3 ครั้งที่ 2/2553 (พมพ.ทรภ.3 ครั้งที่ 2/53) โดยมีนายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สตูลและระนอง เช่น ฝ่ายปกครองจังหวัด ป้องกันจังหวัด เป็นต้น เข้าร่วม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้คณะกรรมการ พมพ.ทรภ.3 และผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบผลการดำเนินการตามแผนความมั่นคงชายฝั่งทะเลและเกาะแก่ง ในเขตทัพเรือภาคที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2553 เพื่อให้การดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 3 ในปีงบประมาณ 2554 – 2555 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อเตรียมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 3 พ.ศ.25553-2559 รองรับยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน พ.ศ.2555-2559 เพื่อนำไปเป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนงานความมั่นคงชายแดน ชายฝั่งทะเลและเกาะแก่งในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันต่อไป

พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงศ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า จากการที่ได้ติดตามการดำเนินการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงในระดับพื้นที่เขตทัพเรือภาคที่ 3 ในปีงบประมาณปี 2553 มาโดยตลอด ได้ทราบถึงความตั้งใจในการดำเนินการของจังหวัดต่างๆ ชายฝั่งทะเลอันดามันทั้ง 6 จังหวัด และรับทราบปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ ในการดำเนินการ ทำให้ภาพรวมของการดำเนินการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ซึ่งปัญหาหลักๆ จะเป็นเรื่องของงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในการดำเนินการตามแผนงานอย่างจำกัดหรือไม่ได้รับการจัดสรร ซึ่งได้ชี้แจงให้ระดับนโยบายรับทราบและหาแนวทางการแก้ไขต่อไปแล้ว

“การทำงานในปีงบประมาณต่อไปนั้นจะเน้นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น เนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบภาคเรือที่ 3 ซึ่งมี 6 จังหวัด และแต่ละจังหวัดจะมีปัญหาที่แตกต่างกัน จึงเกิดความหลากหลายและความเป็นเอกภาพ ดังนั้นในการบูรณาการในภาคปฏิบัติจะต้องดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ และตรงกับความต้องการ ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่เกิดความซับซ้อน”

พล.ร.ท.ชุมนุม กล่าวด้วยว่า ในส่วนของปัญหาที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ปัญหาภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ และปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาร่วมของทุกพื้นที่โดยจะต้องบูรณาการความร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อสนับสนุนทั้งการป้องปราม การปราบปรามและการเฝ้าระวัง รวมไปถึงเรื่องของภัยธรรมชาติด้วย เท่าที่ประเมินพบว่าสถานการณ์ถือว่ายังไม่รุนแรงมากนัก และอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น