พล.ร.ต.นาวิน ธนเนตร เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเรือบรรทุกน้ำมันโชคถาวร 6 อับปาง พร้อมน้ำมันดีเซลบี 5 จำนวนประมาณ 30,000 ลิตร เมื่อช่วงสายของวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศใต้ประมาณ 10 ไมล์ทะเล ว่า ในช่วงเช้าที่ของวันที่ 6 กันยายน 53 ได้สั่งการให้นำเรือตรวจการณ์ ต.218 ออกไปสังเกตการณ์บริเวณจุดที่เรืออับปาง ซึ่งได้รับรายงานว่าไม่มีอะไรผิดปกติและไม่พบคราบน้ำมันเพิ่มเติม คลื่นลมเริ่มสงบแล้ว ขณะเดียวกันก็ได้สั่งการให้อากาศยานของทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งมีการบินตรวจการณ์ตามภารกิจปกติได้สำรวจบริเวณจุดที่เรือจม และบริเวณแนวชายฝั่งใกล้เคียงเพิ่มเติม เพื่อสำรวจว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรหรือไม่อย่างไร ในขณะที่เรือหลวงรังซึ่งเป็นเรือฉีดสารเคมีขจัดคราบน้ำมันก็ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน และบูมสำหรับกักล้อมน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นไปเตรียมบนเรือ ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถออกปฏิบัติการได้ทันที
“เท่าที่ประเมินสถานการณ์คิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก และจากการพูดคุยกับเจ้าของเรือก็ยืนยันว่าน้ำมันที่อยู่ในตัวเรือนั้นได้ปิดวาล์วไว้เป็นอย่างดี หากไม่มีอะไรไปกระแทกคงไม่มีปัญหา และพร้อมที่จะทำการกู้เรืออยู่แล้ว แต่คงต้องเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ เพราะเขาเองก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้น และน้ำมันในส่วนที่เหลือก็มีมูลค่าพอสมควร ดังนั้นคาดว่าจะสามารถกู้เรือได้ในเร็วๆ นี้”
พล.ร.ต.นาวิน กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางทัพเรือภาคที่ 3 และศรชล.เขต 3 ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ขอสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งหน้าที่ของ ศรชล.เขต 3 นั้นเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติเกี่ยวกับการก่อการร้ายทางทะเลทุก ๆ ด้านในพื้นที่ฝั่งอันดามัน เพื่อให้การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอันเป็นอันหนึ่งอันเดียว และการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเล ได้แก่การอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อม การป้องกันและขจัดคราบน้ำมันและมลพิษต่าง ๆ ในทะเล
ด้านเจ้าหน้าที่จากกลุ่มสมุทรศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกเดินทางจากท่าเทียบเรือสถาบันวิจัยฯ โดยเรือศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและป่าชายเลน ที่ 5 (จ.ภูเก็ต) เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำทะเลเพิ่มเติมรอบๆ บริเวณที่เรือบรรทุกน้ำมัน โชคถาวร 6 อัปปาง เพื่อตรวจคุณภาพน้ำทะเลในบริเวณต่างๆ ว่า มีคราบน้ำมันกระจายตัวออกมาหรือไม่
ทั้งนี้นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ได้กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเลจากจุดเกิดเหตุมาได้แล้วจำนวน 8 ตัวอย่าง แต่วันนี้จะมีการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลในบริเวณที่เป็นวงกว้างขึ้น โดยจะรวมทั้งจุดที่เห็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งบริเวณชายหาดเกาะราชา เกาะเฮ และเกาะไม้ท่อน อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเรืออับปาง
สำหรับการจัดเก็บตัวอย่างน้ำนั้น จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างเป็นทางการณ์จะทราบในเร็วๆนี้ เบื้องต้นเชื่อว่า ตัวอย่างน้ำที่จัดเก็บมาในชุดแรกน่าจะมีสารปนเปื้อนบ้าง เพราะเป็นตัวอย่างน้ำในบริเวณที่เรืออับปาง แต่เชื่อว่าสารดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก นายวรรณเกียรติกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น