จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

ตร.ภูเก็ตเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191


เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 10 มีนาคม 2554 ที่บริเวณชั้น 4 สภ.เมือง ภูเก็ต นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ผกก.สภ.ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการ กต.ตร.และคณะผู้ไกล่เกลี่ย สภ.เมืองภูเก็ต ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตามโครงการระยะที่ 3

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ชานุชาญ ชลสุวัฒน์ ผกก.ฝอ.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า ด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่บริการประชาชน รับไปพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์บริการประชาชน ในลักษณะ Call Center ขึ้นในหน่วยงาน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาศูนย์บริการประชาชน ที่สามารถดำเนินการได้อย่างเร่งด่วน โดยการพัฒนาปรับปรุงระบบสารสนเทศและการสื่อสาร โทรศัพท์สายด่วน 191 ซึ่งหน่วยงานตำรวจส่วนใหญ่มีการใช้งาน และเป็นที่จดจำของประชาชนทั่วไปอยู่แล้ว ให้เป็นศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ที่สามารถควบคุมและสั่งการปฏิบัติที่มีเอกภาพ เรียกว่า “ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191” ของตำรวจภูธรจังหวัด ในแต่ละจังหวัดเพียงแห่งเดียว

และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยกองตำรวจสื่อสาร จัดทำ “โครงการศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตำรวจภูธรจังหวัด” ขึ้น ตามโครงการระยะที่ 1 และระยะที่ 2 รวมจำนวน 20 จังหวัด โดยตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อยู่ในโครงการระยะที่ 3 ซึ่งในระยะที่ 3 นี้มีทั้งหมด 5 จังหวัด ประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง, ระยอง, ประจวบคีรีขันธ์, นราธิวาส และภูเก็ต

สำหรับการปรับปรุงศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ในครั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินทางโทรศัพท์สายด่วน หมายเลข 191 เพียงหมายเลขเดียว ณ ที่ใดก็ได้ทั่วประเทศ ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าไปช่วยเหลือ หรือระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที เพราะเวลาเพียงเสี้ยววินาที อาจหมายถึงชีวิตและทรัพย์สินที่สูญเสียไป ทำให้ประชาชนจะไม่สับสน ในการใช้หมายเลขโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินอีกต่อไป โดยทางศูนย์ ได้นำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่นเดียวกับศูนย์ Call Center ของภาคเอกชนมาใช้ โดยระบบจะจัดเก็บเสียงและข้อมูลแจ้งเหตุในรูปแบบดิจิตอล ส่งผ่านไปยังสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ ทำให้ลดข้อผิดพลาดที่มีสาเหตุจากบุคคลและอุปกรณ์ ในการจดบันทึกเหตุและการประสานงานที่ไม่ชำนาญของเจ้าหน้าที่ สามารถสืบค้น รวบรวมข้อมูล ทั้งฐานข้อมูลบุคคล แผนผังสถานที่ในจังหวัดได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และที่สำคัญประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา

ด้านนายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มุ่งมั่นดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และความรับผิดขอบ ด้วยความเข้มแข็ง โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายในหน้าที่ของตำรวจ แต่การปฏิบัติงานของตำรวจจะไม่บรรลุผลได้เลย ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแส หรือ แจ้งข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ปรับปรุงพัฒนาและจัดตั้งขึ้นนี้

จึงเป็นปฏิบัติการเชิงรุก ที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยมาใช้เสริมการปฏิบัติงานของตำรวจ เพื่อช่วยให้ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งเหตุจากประชาชน สั่งการณ์ไปยังตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เป็นไปด้วยความถูกต้อง ชัดเจน รวดเร็ว พร้อมทั้งได้ปรับปรุงกระบวนการแจ้งเหตุของประชาชนมายังตำรวจ ให้มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบย้อนหลังการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ทุกขั้นตอน ในประเทศที่พัฒนาแล้วทุกประเทศจะให้ความสำคัญอย่างยิ่ง กับศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านทางระบบโทรศัพท์ เพราะถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สะดวก ไม่จำกัดเวลา เสียค่าใช้จ่ายน้อย และกระทำได้ทุกสถานที่ จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันจะส่งผลให้ประชาชนยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจมากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น