จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รองผู้ว่ากกท. ตรวจ สนามสุระกุล


เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 54 ที่สนามกีฬาสุระกุล อ.เมือง ภูเก็ต นายแพทย์จตุพร ณ นคร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายส่งเสริมกีฬา พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมาตรวจรับงาน โครงการก่อสร้าง ปรับปรุงสนามฟุตบอล ลู่ – ลานกรีฑาวัสดุยางสังเคราะห์ ภายในสนามสุระกุล จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายวิรัช พาที ผอ.กกท.ภูเก็ต และ นายอาซิ่น อร่ามเมธาพงศา ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต ให้การต้อนรับและร่วมตรวจด้วย ซึ่งทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ว่าจ้างให้ บริษัท ที.เอ็น.จี.(ไทนัน) จำกัด เป็นผู้รับจ้างจัดการก่อสร้างและปรับปรุงสนาม เพื่อใช้เป็น สนามแข่งขันและพิธีเปิด – ปิด การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 28 พ.ศ. 2555 “ภูเก็ตเกมส์” ด้วยงบประมาณ 18,895,000 บาท โดยครั้งนี้เป็นงวดสุดท้าย ก่อนการส่งมอบให้กับ อบจ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินการในกิจกรรมต่างๆ ต่อไป
ทั้งนี้นายแพทย์จตุพร กล่าวภายหลังจากตรวจรับงาน จากบริษัทผู้รับจ้างแล้วว่า ทาง กกท.เราก็ต้องมาตรวจการก่อสร้าง เพราะเราต้องใช้สนามลู่ยางแห่งนี้ ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 28 ในช่วง เดือนมีนาคม 2555 อย่างน้อยที่สุดคือ สนามต้องได้มาตรฐานของสหพันธ์กรีฑานานาชาติ ซึ่งได้จัดสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมขึ้น หลังจากที่จัดสร้าง ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งการใช้ยางแดงทั้งหมด คุณภาพจะดีกว่า มีการผสมยางดำ กับยางแดง อย่างไรก็ตาม ในต่อไปภายภาคหน้าเราจะต้องควบคุมมาตรฐานการก่อสร้าง การใช้ยางที่มีคุณภาพ เพราะว่าทางจังหวัดภาคใต้นั้น จะมีฝนตกชุกมากกว่า จังหวัดทางภาคอื่น ปีหนึ่งจะตกอยู่นานมาก เพราะฉะนั้นการเทพื้นสนามยางจะต้องไม่มีน้ำขัง ไม่เป็นคราบ หรือมีหลุมบ่อ จะต้องเป็นพื้นเรียบพร้อมที่จะใช้งานได้ตลอด อีกประเด็นหนึ่งที่มีปัญหา ที่ผ่านมา ขอบของลู่ยางด้านในของตัวฝาท่อน้ำทิ้งสมัยก่อนมีปัญหามาก แต่เดี๋ยวนี้ มีการออกแบบใหม่ โดยผู้รับจ้างได้ออกมาโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นการระบายน้ำในลู่ยางก็จะดีกว่าเดิมซึ่งจากการตรวจงานดูแล้ว ยืนยันว่า ไม่มีจุดบกพร่อง ทางผู้รับเหมา เขาทำได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตามก็คงจะต้องรอการทดสอบการใช้งาน ในเดือนธันวาคมปลายปีนี้ เนื่องจากจะมีการแข่งขันคัดภาพ 4 และ ในส่วนของ อบจ.ภูเก็ต ที่จะใช้งานกิจกรรมกีฬาอื่นๆ อีก
นายแพทย์จตุพร ยังกล่าวต่อว่า งบประมาณ ที่จัดมาลงให้ครั้งนี้ มีจำนวน เกือบ 19 ล้านบาท เนื่องจากสนามภูเก็ตนั้น มีลู่วิ่งอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่สร้างใหม่ เพียงแต่เรารื้อลู่เก่าออก และมีการปรับพื้นให้เรียบ ดังนั้นค่าก่อสร้างจริงๆ จึงไม่ถึง 26 ล้าน แต่ถ้าหากว่า เป็นลู่วิ่ง ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน มันก็จะต้องใช้งบประมาณ กว่า 26 ล้านแน่นอน แต่ที่ภูเก็ตเอง ทำให้ กกท.ประหยัดงบไปหลายล้านบาทเลยทีเดียว ส่วนอุปกรณ์สนามบางอย่าง เป็นที่น่าเสียดายที่เราได้ใช้อุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศและยังไม่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ ซึ่งคงจะมาจากที่เราโดนตัดงบประมาณ เราจึงต้องใช้ วุสดุอุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ก็สามารถใช้แข่งขันได้ เพียงแต่ในประเทศเท่านั้น ไม่สามารถแข่งระดับนานาชาติได้ ซึ่ง ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็หาทางแก้ไข คงจะต้องไปคุยกับสำนักงบประมาณใหม่ว่า อย่าตัดงบของ กกท.เพราะว่าจะได้ นำงบมาใช้จัดซื้อ อุปกรณ์ กีฬาต่างๆที่สามารถรองรับ ระดับนานาชาติได้ ซึ่งอุปกรณ์ที่ เห็นอยู่ และใช้ระดับนานาชาติได้ ก็มีการผลิตจาก อินเดีย และ ประเทศจีน
ผู้สื่อข่าว ได้สอบถาม เกี่ยวกับกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่ภูเก็ตจะเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขัน ในปี 55 นายแพทย์จตุพร ได้กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดาที่ทาง กกท.จะต้องจัดงบประมาณมาสนับสนุน แต่อย่างไรก็ตามก็จะต้องให้คนในท้องถิ่น มีส่วนร่วมด้วย เราสนับสนุนเพียงบางส่วน ที่เหลืออยู่ก็เป็นเรื่องของจังหวัดเจ้าภาพที่จะต้องหามาสมทบ ซึ่งทราบมาว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันของจังหวัดภูเก็ตได้ระดมเงินจาก ส่วนท้องถิ่น เช่น อบจ. เทศบาล อบต. และผู้ว่าราชการจังหวัด ก็มีส่วนช่วยระดมทุนมาจากท้องถิ่นมาสนับสนุน ส่วนทางด้าน กกท.เอง ก็ให้สนับสนุนเช่นเดียวกัน ในส่วนของการสนับสนุนการปรับปรุงสนามต่างๆ ที่มีการจัดการแข่งขันตามชนิดกีฬา ไม่ใช่สนามกรีฑาอย่างเดียว และสนับสนุนในการเตรียมนักกีฬาในการจัดการแข่งขันกีฬา เป็นการจ่ายค่านักกีฬาในระหว่างการแข่งขันอีกส่วนหนึ่ง แต่เชื่อว่า ในส่วนนี้มันไม่ได้พอเพียงในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งผู้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันต้องหางบประมาณเองส่วนหนึ่ง ซึ่งตนมองเห็นว่า ไม่เกินความสามารถของจังหวัดภูเก็ตอยู่แล้ว เพราะว่า ในอดีตกีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาแห่งชาติ ภูเก็ตก็เคยจัดมาแล้ว และคราวนี้ ก็คงจะไม่เหลือบ่ากว่าแรงของจังหวัดภูเก็ต เช่นเดียวกัน รอง ผู้ว่าการฯกกท.กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น