จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สคบ.ภูเก็ต เตรียมเชือดผู้ประกอบการ



เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2555 เพื่อรายงานผลการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคปีงบประมาณ 2554 ที่ผ่านมาให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทราบ เพื่อนำมาวิเคราะห์ความเสี่ยงในการจัดทำแผนคุ้มครองผู้บริโภคในปีงบประมาณ 2555 และเพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค โดยมีอนุกรรมการจากหน่วยงานราชการ องค์กรภาคเอกชนและผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับผลการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคปีงบประมาณ 2554 อนุกรรมการฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค จำนวน 60 เรื่อง สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยได้ข้อยุติ จำนวน 45 เรื่อง และอยู่ระหว่างการดำเนินการ 13 เรื่อง ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณา จำนวน 2 เรื่อง โดยผู้บริโภคได้รับการชดเชยเป็นเงิน จำนวน 2,772,237 บาท สำหรับในปีงบประมาณ 2555 ในระหว่างเดือนตุลาคม 2554 -กุมภาพันธ์ 2555 อนุกรรมการฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคทั้งหมด 29 เรื่อง เจรจาไกล่เกลี่ยได้ข้อยุติ จำนวน 18 เรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 11 เรื่อง โดยผู้บริโภคได้รับการชดเชยเป็นเงิน จำนวน 845,845 บาท
ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคจำนวน 3 ราย ซึ่งได้เชิญผู้ร้องและผู้ถูกต้องมาเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว แต่ในส่วนของผู้ถูกต้องไม่มาชี้แจงข้อเท็จจริง ประกอบด้วย รายของ น.ส.แสงเดือน ไทยเสรีกุล ร้องเรียนบริษัท เซ็นทรัล เทรดดิ้ง จำกัด กรณีซื้อนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ casio รุ่น aelloo-lavdf แต่เมื่อใช้ไปได้ 3 วันสินค้ามีปัญหา และได้นำไปให้ศูนย์ตรวจสอบ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งทางอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด แจ้งให้ผู้ประกอบการชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ไม่ได้มาตามนัด ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาในประเด็นของผู้บริโภคว่าถูกละเมิดและจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภครายอื่น แม้ว่าสินค้าจะมีราคาเพียง 800 บาทก็ตาม จึงมีมติส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคส่วนกลางพิจารณาดำเนินการต่อ
ส่วนอีก 2 ราย นั้นเป็นการร้องเรียน บริษัท ธนดิลก เรียลเอสเตท จำกัด ผู้บริหารโครงการ ธนาภา พาร์ควิว2 (บางชีเหล้า) กรณีนายพงศ์สันต์ อังคณานุชพงศ์ ร้องเรียนได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายทาวน์เฮ้าส์ โครงการดังกล่าว แต่ขอสินเชื่อไม่ผ่าน จึงขอบอกเลิกสัญญาและขอเงินคืน กับรายของ น.ส.ณัฏฐ์ กิตติชนม์ กรณีทำสัญญาจะซื้อจะขายทาวน์เฮ้าส์ในโครงการดังกล่าวเช่นกัน และภายหลังตรวจพบว่าโครงการฯ ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา จึงได้ทำหนังสือบอกเลิกสัญญากับบริษัทฯ เพื่อขอเงินคืนแต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทั้งสองรายอนุกรรมการฯ ได้แจ้งให้บริษัท ธนดิลก เรียลเอสเตท จำกัด ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่ได้มาภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งที่ประชุมพิจารณาและมีมติให้ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคส่วนกลางพิจาราต่อไป
ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีปัญหาร้องเรียนเข้าสู่คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ดิน การซื้อสินค้าและบริโภค ซึ่งหากดูตามผลดำเนินงานสามารถยุติเรื่องได้เป็นที่น่าพอใจ แต่เนื่องจากจำนวนเรื่องร้องเรียนที่มีจำนวนมากก็อาจจะเพิ่มจำนวนครั้งของการประชุมให้มากขึ้น รวมทั้งการลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พร้อมที่จะให้สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวด้วย เพื่อประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก เพื่อเป็นการป้องปรามผู้ประกอบการที่ไม่ดำเนินการตามที่ได้ให้รายละเอียดหรือทำข้อตกลงไว้ รวมทั้งการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน และส่งเรื่องไปยังสำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการในส่วนกลางต่อไป แต่ทั้งนี้ก็จะมีการพิจารณาเป็นรายๆ ไปว่า มีการให้ความร่วมมือที่จะเข้ามาให้ข้อมูลและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น