จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

“เฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษาปีมงคล 3 วโรกาส”



เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 ที่ห้องรายา โรงแรมรอยัลภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) และนายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกฝ่ายการตลาดสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าว การจัดโครงการ “เฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษาปีมงคล 3 วโรกาส” 


ซึ่งทาง อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต และพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกันจัดขึ้น เนื่องในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพเทิดทูนของประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคมนี้ที่บริเวณสวนสาธารณะปลายแหลมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต 


การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเฉลิมพระชนมพรรษาปีมหามงคล 3 วโรกาสครั้งนี้ มีกิจกรรมหลักคือ นิทรรศการมหามงคลสมัย ชาวภูเก็ตร่วมเทิดไท้ ด้วยใจภักดิ์ ซึ่งเป็นการนำเสนอเนื้อหาและองค์ประกอบผสมผสานระหว่างพระบรมสาทิสลักษณ์และภาพยนตร์ย้อนอดีตพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การนำเสนอเนื้อหาของคีตราชันย์ โดยมูลนิธิหอสมุดดนตรีในพรบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นการนำเสนอัจฉริยภาพทางดนตรี การนำแซกโซโฟนที่เคยเป็นเครื่องดนตรีประจำพระองค์มาจัดแสดงให้ได้ชมด้วย


นอกจากนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการผลงานประติมากรรมชุด “ในหลวง” ของนายวัชระ ประยูรคำ ด้วย พร้อมกันนี้ผู้ที่เข้าร่วมชมงานยังจะได้ถวายพระพรในวโรกาสสำคัญดังกล่าวด้วยตนเองและบันทึกลงในวีดิทัศน์ รวมถึงการแสดงดนตรีบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยวงเฉลิมราชย์ สลับกับการแสดงของศิลปินดารามากมาย และกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ อีกมากมาย 


รวมถึงความร่วมมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทาง อบจ.ภูเก็ต ผ่านทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จนทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาภูเก็ตไม่มีโลว์ซีซั่น พร้อมกันนี้จะมีการจัดแสดงนิทรรศการด้านแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย 



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น