เมื่อคืนวันที่ 24 มกราคม 2556 ที่บริเวณหน้า สภ.กลมา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตได้มีกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้ปกครองของเด็ก-เยาวชนในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ ภูเก็ต ประมาณ 100 คน ได้รวมตัวประท้วง เพื่อเรียกร้องให้มีการนำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งออกมาขอโทษ ที่ตบหน้าและชักอาวุธปืนประจำกายออกมาข่มขู่นายกฤษณ์ พีตา อายุ 23 ปี หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันเป็นพลเมืองดีช่วยกันจับกุม 2 คนร้ายตามหมายจับของศาล จ.ภูเก็ต
ที่เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่มาส่งมอบให้กับตำรวจ พร้อมทั้งให้ย้ายตำรวจนายดังกล่าวออกนอกพื้นที่ เนื่องจากทำเกินกว่าเหตุ โดยมีการนำยางรถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่งออกมาวางกองไว้บริเวณทางขึ้นโรงพัก ซึ่งตลอดเวลามีการตะโกนขับไล่ตำรวจดังกล่าวออกนอกพื้นที่พร้อมกับให้ออกมาขอโทษกับการกระทำที่ทำลงไป
จากนั้น พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตพร้อมด้วยกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.กมลาและผู้นำชุมชน ตลอดจนปลัดอำเภอกะทู้ก้ได้เดินทางมาดูแลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด หลังจากประชุมร่วมกัน ทางผบก.ภ.จว.ภูเก็ตได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดจนกล่าวขอโทษกับผู้ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่ช่วยกันจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ขอให้ผู้เสียหายกับเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว ในข้อหาทำร้ายร่างกายได้ ส่วนกรณีการปฏิบัติหน้าที่จะเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้นจะต้องมีการตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัยก่อน ซึ่งถ้าพบมีการกระทำความผิดจริงจะมีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวออกนอกพื้นที่ทันที โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
ทางด้านนายกฤษณ พีตา อายุ 23 ปี หนึ่งในวัยรุ่นที่ช่วยกันจับกุม 2 คนร้ายที่เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาทำร้ายร่างกายและชักปืนข่มขู่กล่าวว่า ตนกับเพื่อนอีก 4 – 5 คนช่วยกันจับคนร้ายที่เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่ แต่ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไป จนกระทั่งพบว่าได้ย้อนกลับมาในพื้นที่อีก จึงช่วยกันจับกุมเพื่อนำส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงกลับชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ พร้อมทั้งตบหน้าของตน และเพื่อนๆ ที่เป็นพลเมืองดี จึงทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจตำรวจนายดังกล่าว แต่เมื่อ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตได้ออกมากล่าวขอโทษและจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างยุติธรรม จึงยอมสลายการชุมนุม เพื่อรอดูการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ด้านพล.ต.ต.โชติ ได้กล่าวว่า จากที่ได้รับฟังความจากทั้งสองฝ่ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำผิดจริง ก็ต้องดำเนินการตามวินัยของตำรวจ โดยได้มีการชี้แจงให้กับชาวบ้านที่มารวมตัวตัวกันได้เข้าใจแล้ว ซึ่งชาวบ้านเองก็เข้าใจ เพราะเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ส่วนผู้เสียหายนั้น ก็ต้องเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าทำร้ายร่างกาย ซึ่งชาวบ้านก็ยอมสลายตัวกลับบ้านไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น