จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อธิบดีอุทยานฯ คนใหม่ตรวจสอบรุกอุทยานฯ สิรินาถ



เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานการประชุมตรวจติดตามการปฏิบัติงานตามยุทธการทวงคืนผืนป่า (อุทยานแห่งชาติสิรินาถ) เพื่อติดตามการทำงานของคณะทำงานตรวจสอบเอสารสิทธิ และปราบกรามการบุกรุกยึดถือที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 


ทั้งนี้คณะทำงานได้รายการผลการปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมาว่า ได้มีการตรวจสอบหลักฐานเอกสารสิทธิ์ที่ดินซึ่งคาดว่าน่าจะได้มาไม่ถูกต้อง จำนวน 16 แปลง อาทิ แปลงลาคอลลีน จำกัด บริษัท ทรีดอลฟินซ์ จำกัด แปลงโรงแรมภูเก็ตเพนนูล่า สปา แอนด์รีสอร์ท จำกัด บริษัท สุรีสัมฤทธิ์ จำกัด และ บริษัท มาลัยวนา จำกัด บริษัท แลนด์ สเตรท จำกัด และบริษัท บางเทา บีช จำกัด เป็นต้น ผลการดำเนินงานในภาพรวม คือ เอกสารสิทธิส่วนใหญ่มีกระบวนการ หรือขั้นตอนการออกเอกสารสิทธิไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยการดำเนินการนั้น มีทั้งการแจ้งความดำเนินคดี การแจ้งกรมที่ดินเพื่อดำเนินการเพิกถอน 


อย่างไรก็ตามภายหลังจากการรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมคณะ ได้ลงตรวจสอบพื้นที่จริงที่จะมีการดำเนินการในระยะที่ 3 จำนวน 2 จุด คือ บริเวณด้านหน้าโรงแรมอิมพีเรียมอดามาส กับบริเวณป่าเขารวกเขาเมืองใกล้กับที่ดินของนางสุชาดา สังข์สุวรรณ หรือใกล้กับโรงแรมภูเก็ตเพนนูล่า สปา แอนด์รีสอร์ท (โรงแรมร้าง) เนื้อที่ประมาณ 84 ไร่ มีความเป็นธรรมชาติและเป็นพื้นที่ป่าที่มีสมบูรณ์อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีความลาดชันและติดกับชายหาด โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าน่าจะออกเอกสารโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 


นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าวว่า การดำเนินการขณะนี้แบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยระยะแรก จำนวน 11 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 600 ไร่ ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และกรณีที่พบมีการรุกล้ำเขตอุทยานฯ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุก และเสนอเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ไปยังกรมที่ดินแล้ว ระยะที่ 2 จำนวน 7 แปลง และยังแบ่งเป็นแปลงย่อยอีก 18 แปลง เนื้อที่จำนวน 400 ไร่ 


ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอ่านแปลภาพถ่าย และระยะที่ 3 เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ บริเวณตรงข้ามกับโรงแรมพิมพีเรียมอดามาส บริเวณด้านเหนือของหานในทอน และบริเวณลายัน โดยจะมีการทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งจะทำให้การทำงานง่ายขึ้น เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษจะมีกฎหมายเฉพาะที่สามารถขอเรียกดูเอกสารจากหน่วยงานต่างๆ มาใช้ประกอบเป็นหลักฐานได้ ซึ่งเมื่อรวมเนื้อที่ทั้ง 3 ระยะแล้วจะพบว่าใกล้เคียงกับเนื้อที่ที่คาดว่าจะมีการบุกรุกในเขตอุทยานฯ ทั้งหมด 


ด้านนายมโนพัศ กล่าวภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปและลงตรวจพื้นที่ ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อตรวจสอบติดตามการบุกรุกยึดถือครอบครองที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ พร้อมเปิดศูนย์อำนวยการตรวจสอบเอกสารสิทธิฯ รวมทั้งการตรวจสอบในพื้นที่ที่มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้ว พบว่า พื้นที่มีการออกเอกสารสิทธินั้นจะมีสภาพป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เป็นพื้นที่ที่มีความลาดชัน และมีภูมิประเทศที่สวยงาม โดยจุดที่มีปัญหาการบุกรุกครอบครองและออกเอกสารสิทธิค่อนข้างมากจะเป็นบริเวณที่อยู่ติดกับชายทะเล และซีวิว ไม่ว่าจะเป็นเนินเขาหรือชายหาด จากภาพประจักษ์ทางสายตาน่าจะเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 


“ขั้นตอนต่อจากนี้ จะมีการเรียกตรวจสอบเอกสารทั้งหมด และไปยื่นคัดค้านว่าเอกสารดังกล่าวออกโดยมิชอบรวมทั้งการแจ้งความดำเนินคดีก่อน รวมทั้งการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบ ส่วนกรณีที่มีการนำเอกสารสิทธิต่างๆ มาอ้างก็จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดไม่ว่าจะเป็นโฉนดหรือ นส.3 เพราะเอกสารแต่ละประเภทจะต้องมีที่มา เช่นกรณีของ สค.1 ซึ่งกรมที่ดินได้ออกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2497 และจะต้องออกในพื้นที่ที่มีการครอบครองทำกินมาตลอดต่อเนื่อง และสามารถพิสูจน์ได้โดยใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์ คือ การใช้ภาพถ่ายทางอากาศ” นายมโนพัศ กล่าว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น