เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ห้องวิทยาลัยชุมชน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (สะพานหิน) อ.เมือง จ.ภูเก็ต คณะทำงานเครือข่ายภูเก็จจัดการตนเอง ร่วมกับสภาการเมือง และสำนักงานปฎิรูปเพื่อสังคมไทยที่เป็นธรรม (สปร.) จัดเวทีเสวนารับฟังความคิดเห็น ในหัวข้อ “ภูเก็ตอยากเลือกผู้ว่าฯ แบบ กทม.หรือไม่”
เพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเกี่ยวกับแนวคิดหรือรูปแบบการทำให้ภูเก็ตปกครองตนเอง เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่กำลังประสบอยู่ โดยมีคณะทำงานภูเก็ตจัดการตนเอง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและภาคประชาชน เข้าร่วม
ทั้งนี้ภาพรวมของการนำเสนอความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้ภูเก็ตมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ โดยตรง เหมือนกับกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมองว่า ผู้ว่าฯ ปัจจุบันที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากส่วนกลางนั้นไม่สามารถทำงานแก้ไขปัญหาให้กับพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ และเมื่อมีการเปลี่ยนผู้ว่าฯ คนใหม่ นโยบายต่างๆ ก็เปลี่ยนไป ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน ทำให้การทำงานแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ต่อเนื่อง รวมทั้งบางครั้งการทำงานจะมุ่งเน้นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลเป็นหลัก
นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) กล่าวว่า เมื่อประมาณปี 2546 อบจ.ภูเก็ตในสมัยนั้น ได้มีการสนุนสนุนงบประมาณ 2 ล้านบาท ในการว่าจ้างนิด้าทำการศึกษารูปแบบของการปกครองพิเศษภูเก็ต และได้มีการนำเสนอผลการศึกษาไปยังกระทรวงมหาดไทย แต่เรื่องก็เงียบหายไปเช่นกัน ซึ่งปัญหาสำคัญในการที่จะเลือกผู้ว่าฯ โดยตรงได้หรือไม่อยู่ที่กระทรวงมหาดไทย
ส่วนของนายสุทา ประทีป ณ ถลาง คณะทำงานเครือข่ายภูเก็จจัดการตัวเอง กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ และจำเป็นที่จะต้องเลือกผู้ว่าฯ แต่จะต้องเป็นผู้ว่าที่มาทำให้ภูเก็ตมีความยั่งยืน ซึ่งการจะทำได้นั้นจะต้องไม่มีการคอร์รัปชัน โกงกิน เนื่องจากปัจจุบันเราจะพบว่าผู้ว่าฯ ซึ่งแต่งตั้งมาจากส่วนกลางนั้นก็มุ่งเน้นการทำตามนโยบายของส่วนกลาง และทำลายความยั่งยืนของภูเก็ต
โดยไม่ได้มองถึงปัญหาของท้องถิ่นอย่างแท้จริง เช่น การอนุมัติอนุญาตก่อสร้างต่างๆ ซึ่งไม่ได้มองถึงศักยภาพของพื้นที่ที่จะเกิดปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ น้ำเสีย การจราจร เป็นต้น ดังนั้นจึงมองว่าหากเป็นผู้ว่าฯ ที่เลือกตั้งกันในพื้นที่ก็จะสามารถพุดคุยหรือควบคุมกันได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น