จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

รณรงค์กดดันป้องปรามนำลิงลมมาให้ นทท.ถ่ายภาพ



เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคม 2556 ที่บริเวณซอยบางลา หาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว จ.ภูเก็ต, เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้ำพราย จ.ตรัง, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว และด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 30 นาย 


นำโดยนายอวัช นิติกุล หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว จ.ภูเก็ต และนายพงษ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าสถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว นำเอกสารแผ่นพับข้อความภาษอังกฤษต่อต้านและไม่ส่งเสริมการนำลิงลมหรือนางอายมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ แจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งมาท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าว เพื่อรณรงค์กดดันและป้องปรามการนำสัตว์ป่ามาแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว 


เนื่องจากลิงลมเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และเป็นสัตว์ป่าตามบัญชีหมายเลข 2 ของไซเตสด้วย เบื้องต้นจะดำเนินการในระหว่างวันที่ 7-14 มีนาคมนี้ หลังจากนั้นก็จะมีการสนธิกำลังจากหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 


นายอวัช กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวร้องเรียนเข้าไปยังส่วนกลลางและเขตห้ามล่าฯ อย่างต่อเนื่อง ว่ามีการนำเอาสัตว์ป่า โดยเฉพาะลิงลมหรือนางอายมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำราญแล้ว ยังเป็นการทรมานสัตว์ด้วย ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงได้มีนโยบายให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าว และได้มีการตั้งสายตรวจเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษสัตว์ป่า จังหวัดภูเก็ตขึ้น 


โดยให้มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึงนโยบายของนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เทศบาลเมืองป่าตอง สถานีตำรวจภูธรกะทู้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ได้มีการกวดขัน จับกุม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย 


“การลงพื้นที่แจกเอกสารดังกล่าวให้กับนักท่องเที่ยว เป็นมาตรการหนึ่งในการกดดันและป้องปรามไม่ให้มีการนำลิงลมหรือนางอายมาให้นักท่องเที่ยวถ่าย เพื่อเป็นการให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว เพื่อจะได้ไม่ไปมีส่วนในการส่งเสริมและนำเอาสัตว์ป่ามาให้ถ่ายภาพ ร่วมกับการสนธิกำลังกับหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่ปราบปรามอย่างต่อเนื่อง” 


นายอวัช กล่าวว่า แม้จะมีการลงพื้นที่ปราบปรามอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เนื่องจากกลุ่มผู้กระทำผิดมีเครือข่ายการทำงานที่กว้างขวาง และมีอิทธิพลในพื้นที่ทำให้เกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก แต่ก็ได้มีการปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยการสนธิกำลังจากหน่วยในพื้นที่ และนอกพื้นที่มาร่วมปฏิบัติงาน 


ซึ่งในปี 2555- ปัจจุบัน สามารถจับกุมดำเนินคดีได้จำนวน 17 คดี ลิงลมของกลาง 17 ตัว โดยได้นำของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษา และอนุบาลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จ.พังงา เพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป และจากข้อมูลทางการข่าวพบว่ายังมีลิงลมอีกประมาณ 8 ตัว ที่มีการนำมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการกวดขันจับกุม 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น