จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

การนำสัตว์ป่ามาถ่ายภาพส่งผล นทท.สแกนฯ ลดลง



เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2556 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายเกษม สุขวารี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้, นายอวัช นิติกุล หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว จ.ภูเก็ต, นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และนางปุณยวีร์ ทองศิริเศรษฐ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต 


ได้ร่วมแถลงข่าวชี้แจงการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ กรณีการนำลิงลม (นางอาย) มาหาประโยชน์กับนักท่องเที่ยวบริเวณซอยบางลา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื่องจากลิงลมเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และเป็นสัตว์ป่าตามบัญชีหมายเลข 2 ของไซเตส ประกอบกับมีการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ว่าได้รับความเดือนร้อนรำคาญจากกรณีที่มีผู้นำลิงลมมาให้ถ่ายภาพ 


นายเกษม สุขวารี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า มีผู้นำสัตว์ป่ามาแสวงหาประโยชน์จากนักท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง สายตรวจเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษสัตว์ป่า จังหวัดภูเก็ตขึ้น ด้วยการสนธิกำลังจากหน่วยต่างๆ ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวให้หมดไป 


ด้านนายอวัช นิติกุล หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว จ.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับแต่งตั้ง สายตรวจเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษสัตว์ป่า จังหวัดภูเก็ต มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนจากศูนย์บริการประชาชนกรมอุทยานแห่งชาติฯ หากตรวจพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม ให้นำของกลางไปเก็บรักษา อนุบาลไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จ.พังงา เร่งรัดและติดตามผลคดี/คดีถึงที่สุดแล้วรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ นอกจากนี้ยังได้มีการนำเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เทศบาลเมืองป่าตอง และ สภ.กะทู้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ได้กวดขัน จับกุมอีกทางหนึ่งด้วย 


“ภายหลังที่มีการร้องเรียนไปยังศูนย์บริการประชาชนกรมอุทยานแห่งชาติฯ และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ ว่ามีการนำลิงลมมาหาประโยชน์ด้วยการให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพบริเวณซอยบางลา ป่าตอง และผู้กระทำผิดจะได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 300-500 บาท/ครั้ง/คน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและกวาดล้างจับกุมมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555 ร่วมกับหน่วยงานจากในพื้นที่และนอกพื้นที่ สามารถจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 17 คดี และของกลางลิงลมจำนวน 17 ตัว โดยทั้งหมดนำไปอนุบาลไว้ที่ จ.พังงา เท่าที่ตรวจสอบพบว่ายังคงมีเหลืออยู่ในพื้นที่ประมาณ 6 ตัว หลังจากที่ทาง สภ.กะทู้มีการจับได้เพิ่มอีก 2 ตัว โดยอยู่ระหว่างการสืบสวนหาที่มา” 


นายอวัช กล่าวว่า แม้จะมีการออกลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ประสบปัญหาถูกข่มขู่ เพราะกลุ่มผู้กระทำผิดมีเครือข่ายงานที่กว้างขวาง และมีอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้เกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่ผู้นำผิดจะให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่กลางซอย เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ก็จะมีสายของผู้ทำผิดซึ่งอยู่ต้นซอยแจ้งให้ทราบ และมีการแยกย้ายกันหลบหนีไปตามซอยเล็กๆ ส่วนผู้ทำผิดเมื่อถูกจับกุมดำเนินคดีก็จะมีโทษทั้งจำและปรับ โดยคนที่ถูกจับกุมและได้รับการประกันตัวออกไปก็จะไม่มีทำผิดอีก โดยเปลี่ยนคนอื่นมาแทน เพื่อป้องกันการถูกจับกุมซ้ำ 


ขณะที่นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า ในส่วนของเทศบาลฯ โดยนโยบายของนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองได้ให้มีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเข้มงวด เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสแกนดิเนเวีย ซึ่งต่อต้านการนำสัตว์มาแสวงหาประโยชน์ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ลดลงในระดับหนึ่ง ประกอบขณะนี้ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพการประชุมไซเตสด้วย 


แต่ด้วยกฎหมายของท้องถิ่นทำได้แค่ปรับในข้อหาการรบกวนนักท่องเที่ยว ประกอบกับลิงลมมีขนาดเล็กเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เทศกิจเขาก็จะซ่อนไว้ในกระเป๋าทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งการทำผิดดังกล่าวมีผลประโยชน์ค่อนข้างสูง จึงทำให้ยังคงมีการนำลิงลมออกมาให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ จากการสอบถามผู้ทำผิดพบว่ามีการนำลิงลมมาจาก จ.ระนองและ จ.นครศรีธรรมราช โดยไม่มีซัดทอดถึงผู้อยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้สัตว์ป่าที่พบว่ามีการนำมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพยังมีชะนี และอีกัวน่าด้วย แต่จากการสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานของกรมอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ทำให้กลุ่มระวังตัวมากขึ้น ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ไปรับผลประโยชน์นั้น ขอยืนยันว่าสำหรับเจ้าหน้าที่เทศกิจของเทศบาลฯ ไม่มีการรับผลประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างแน่นอน นายชัยรัตน์กล่าว 


ส่วน พ.ต.อ. จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้ กล่าว ทางพล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกะทู้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (8 มี.ค.56) ก็สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 1 ราย ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่รับผลประโยชน์นั้นก็จะได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น