เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2556 พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง.ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้าน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 431/4 ชุมชนซอยกอไผ่ ถนนภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นก็ได้ประสานไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาะรณภัยเทศบาลนครภูเก็ต
จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิงจำนวน 4 คัน
ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามด่านศุลกากรจังหวัดภูเก็ต ห่างจากถนนสายหลักประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่พบประชาชนกำลังขนของเพื่อหนีออกจากบ้านใกล้กับบ้านต้นเพลิงกันจ้าละหวั่น โดยไฟกำลังโหมไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวอย่างรุนแรง
ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ฉีดน้ำเพื่อสกัดไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียง ที่ปลูกติดกันอีกหลายหลัง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำสกัดเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
หลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวคือบ้านของนางอำพรรณ สาแล อายุ 57 ปี และบ้านของนายรอน ไม่ทราบชื่อจริง เพลิงได้เผาบ้านทั้ง 2 หลัง
นอกจากนั้นเพลิงยังได้โหมไหม้รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่น เอ็นวี หมายเลขทะเบียน บจ 9451 ภูเก็ต ที่จอดอยู่หน้าบ้านดังกล่าวเสียหายทั้งคัน เมื่อตรวจสอบในกองเพลิงพบว่ามีรถจักรยาน 1 คันได้รับความเสียหาย และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าค่าความเสียหายประมาณ 3 แสนบาทโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตรวจจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการภูเก็ต เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป
จากการสอบถามนายชูศักดิ์ สาแล อายุ 49 ปี น้องชายเจ้าของบ้านทราบว่า บ้านที่เกิดเหตุนั้นขณะที่เกิดเหตุไม่มีใครอยู่ เนื่องจากรอการซ่อมแซมหลังคาที่รั่วและได้มีการย้ายมาพักอยู่ที่บ้านหลังใหม่อยู่ใกล้เคียงกัน และไม่ได้ต่อพ่วงใช้ไฟฟ้า และบ้านที่อยู่ติดกันก็ไม่ได้ใช้ไฟฟ้าได้ใช้เพียงเทียนไขส่องแสงสว่าง จากนั้นก่อนเกิดเหตุมีเสียงสุนัขเห่าแบบผิดสังเกต คล้อยหลังประมาณ 20 นาที ก็พบว่าเพลิงได้โหมไหม้ที่กลางบ้านของพี่สาวอย่างรุนแรง
จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทราบและเดินทางเข้ามาช่วยกันดับเพลิงเอาไว้เพื่อไม่ให้ลุกลามบ้านใกล้เคียง ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงก็สงบลง
พบว่าทรัพย์สินทั้งรถยนต์และสิ่งของมีค่าอื่นๆถูกเพลิงเผาวอดลงไปในพริบตา ค่าความเสียหายประมาณ 3 แสนบาท ส่วนสาเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนว่าต้นเพลิงจากจากบ้านใดกันแน่ จะเกิดจากความประมาณจุดเขียนไขทิ้งไว้แล้วลุกลามเผาวอดหรือมีบ้านที่อยู่ติดกันทั้ง 2หลังไม่ถูกกัน จึงมีการลอบเผาวางเพลิงซึ่งสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น