เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2556 พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รองผกก.สส.สภ.กะรน พ.ต.ต.ธีรเดช จิรักษา สว.สส.สภ.กะรน ร.ต.อ.มนัส วงษ์แก้ว ร.ต.ต.สุรเชษฐ ดำใสรองสว.สส ร.ต.ต.ธราพงศ์ นิลภัคดี รองสว.สส.สภ.กะรน ด.ต.เสถียร แก้วพูล ด.ต.บุญเลิศ เผือกผ่อง ส.ต.อ.สมบูรณ์ สาสุธรรม ส.ต.อ.เตวิทย์ สุพิทยพันธ์ ร่วมกันจับกุมตัวนายเอก มุสิกะ อายุ 39ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ม.1 ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด
หลังจากก่อเหตุดีดก้นบุหรี่ใส่รถจักรยานยนต์ทำให้เกิดเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คันวอด เหตุเกิดที่บริเวณที่อาคารพาณิชย์พี่พักพนักงานร้านอาหารมะลิซีฟู๊ด-ร้านอาหารมะลิชิก ถนนปฎัก ต.กรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเช้าวันที่ 12 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ประมาณเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย” เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รองผกก.สส.สภ.กะรน กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้เนื่องจากเมื่อเช้าวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีคนเผารถจักรยานยนต์ที่บริเวณอาคารพาณิชย์ที่พักพนักงานร้านอาหารมะลิ ต.กะรน ก็พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเรียกเจ้าของรถทั้ง 3 คันที่ถูกเพลิงไหม้มาสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้าย และคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญที่ผู้บังคับบัญชากำชับให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เนื่องจากหลายพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตเกิดเหตุคนร้ายลอบเผารถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่องรวม 12 คันแต่ยังจับกุมตัวไม่ได้
รองผกก.สส.กะรนกล่าวอีกว่า จึงมีการแบ่งกำลังออกติดตามหาเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ จนกระทั่งกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุบันทึกภาพผู้ต้องหาขับรถเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุก่อนเกิดเพลิงไหม้ จึงได้ออกสืบสวนจนกระทั่งแน่นใจว่าผู้กระทำความผิดเผารถจักรยานยนต์รายนี้คือนายเอก มุสิกะ เป็นกุ๊กอยู่ที่ร้านมะลิ ซีฟู๊ด จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนและให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาในการเผา เนื่องจากวันที่เกิดเหตุได้นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนหลังอาคารพาณิชย์หลังที่เกิดเหตุ จากนั้นเมื่อตกดึก เพื่อนๆ ที่นั่งร่วมวงก็ได้ขออนุญาตเข้านอน ส่วนผู้ต้องหาได้ไปซื้อสุรามาดื่มต่อคนเดียวอีก 1 แบน
จนกระทั่งเมาเต็มที่ผู้ต้องหาก็ได้ต้องการที่จะกลับบ้านพัก ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต แต่เกรงว่าน้ำมันที่มีอยู่ในถังอาจจะไม่ถึงบ้านพัก ก็ได้ตระเวนหาซื้อน้ำมันขวดแต่ในขณะนั้นไม่มีใครขาย ผู้ต้องหาจึงขับรถกลับมาที่เกิดเหตุและได้สูบบุหรี่ไปประมาณครึ่งมวน ก็ได้ดีด ก้นบุหรี่เข้าไปที่ กาบูเรเตอร์ของรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮ้อนด้า หมายเลขทะเบียน-คขก-550 นครศรีธรรมราช เมื่อเห็นว่าไฟติดอย่างรวดเร็วผู้ต้องหาก็ได้ ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีและไปนอนพักอยู่ที่โรงแรม 999 ถนนกระ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และกลับไปทำงานตามปกติทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งถูกจับกุมและให้การรับสารภาพดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น