จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สิงคโปร์สนใจพัฒนาการท่องเที่ยวล่องเรือภูเก็ต



เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ที่ห้องรับรองชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับ Mr.Edwin Neo ตัวแทนจาก International Enterprise Singapore และ Mr.Capt.James Fong Group Chief Operating Officer Global Maritime and Port Services Pte Ltd จากประเทศสิงคโปร์ เพื่อหารือเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวในด้านการล่องเรือของจังหวัดภูเก็ต และการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ 


ทั้งนี้นายไมตรี กล่าวภายหลังการหารือว่า หน่วยงาน International Enterprise Singapore ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสิงคโปร์ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ ประกอบกับทางรัฐบาลไทยและรัฐบาลสิงคโปร์ มีการหารือกันในกรอบข้อตกลงเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ ทางสิงคโปร์จึงได้เดินทางมาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาเรื่องการเดินเรือกับภูเก็ต และในการเดินทางมาในครั้งนี้ได้มี Global Maritime and Port Services Pte Ltd จากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลด้านท่าเรือต่างๆ ในหลายประเทศเดินทางมาด้วย 


ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต ก็ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับท่าเทียบเรือ โดยจังหวัดภูเก็ตมีท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ เพียงท่าเดียว คือ ท่าเทียบเรือน้ำลึก บ้านอ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันมีหน้าท่ายาวประมาณ 360 เมตร พร้อมทั้งอาคารจัดเก็บสินค้า โดยในแต่ละวันจะมีเรือเข้าออกเพื่อเข้ามาขนถ่ายสินค้า 


โดยสินค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นไม้อัด ยางแผ่นดิบ และเรือท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรือโดยสารและท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนที่จะเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ อีก นอกจากนี้จะมีเรือทางกองทหารเรือจากประเทศต่างๆ ที่จะยกพลขึ้นบก เพื่อให้ทหารได้พักผ่อนหลังจากเสร็จภารกิจ 


ในส่วนของการปรับปรุงนั้นขณะนี้ทางกรมธนารักษ์ จะทำการปรับปรุงโดยการขยายหน้าท่า จาก 360 เมตร เป็น 420 เมตร หรือขยายออกไปจากเดิม 60เมตร เพื่อให้เรือขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรือสินค้า หรือ เรือท่องเที่ยวโดยสาร สามารถจอดพร้อมกันได้ 2 ลำ 


และอยู่ในระหว่างรอการอนุมัติงบประมาณจากทางรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการเห็นชอบทางคณะอนุกรรมการสิ่งแวดล้อมแล้ว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รอเพียงนำเข้าที่ประชุมใหญ่เพื่อขออนุมัติงบประมาณ ซึ่งถ้าได้ความยาวหน้าท่า 420 เมตร ก็จะทำให้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับเรือสินค้า และเรือท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น 


นายไมตรี ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเข้ามาบริหารหน้าท่าของท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ตนั้น ขณะนี้มีบริษัทเอกชนเข้ามาบริหารอยู่ และด้วยสัญญาการเข้ามาบริหารได้หมดอายุลง ทางกรมธนารักษ์ ได้อนุมัติได้ต่อสัญญาให้กับทางเอกชนได้อีก 1 ปี ซึ่งทำให้บริษัทเอกชน ไม่กล้าที่จะลงทุนหรือวางแผนในการบริหารงานต่อไปได้อีก 


เพราะมีเพียงเวลา 1 ปี โดยเฉพาะสิ่งที่จะต้องมีการเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นเรือลากจูงที่มีเพียง 1 ลำ ทำให้การนำเรือสิงค้า หรือเรือท่องเที่ยวเข้าจอดเป็นไปด้วยความลำบาก ซึ่งทางจังหวัดก็จะได้ให้ทางธนารักษ์เข้าไปคุยกับบริษัทได้จัดเช่าเรือลากจูงเพิ่มมาอีกลำ เพื่อมาลากเรือในการเข้าออกของเรือได้ดีขึ้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น