จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ยื่นคัดค้านแก้กฎหมายอาญา ม.112



เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 บริเวณหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่มประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตผู้รักและปกป้องสถาบัน จำนวนประมาณ 100 คน นำโดยนายดอน ลิ้มนันทพิสิฐ์ พร้อมด้วยแผ่นป้ายข้อความต่างๆ อาทิ เราขอปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และขอคัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112, สถาบันกษัตริย์ต้องอยู่คู่กับชาติไทยตลอดไป, ชาวภูเก็ตไม่เอาคนล้มเจ้า, นิติราษฎร์มันไม่ใช่นักวิชาการ มันคือ พวกหนักแผ่นดิน, วรเจตน์ต่างกับคุณทองแดงอย่างไรช่วยตอบที เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้มีการปราศรัยโจมตีผู้ที่เรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 ด้วยว่า จะเป็นการยิ่งสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคมมากขึ้น เห็นได้จากในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอาจจะเกิดสงครามการเมืองขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการและหยุดยั้งเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน
ทั้งนี้ได้มีการยื่นแถลงการณ์ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตไปยังกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล เพื่อคัดค้านการขอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และร่วมเป็นร่วมหนึ่งในการปกป้องสถาบัน โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับมอบ พร้อมกล่าวว่า การแสดงออกดังกล่าวถือเป็นการแสดงออกตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้มีการส่งแถลงการณ์ดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลต่อไป
อย่างไรก็ตามนายดอน ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ความว่า ตามที่กลุ่มนิติราษฎร์และกลุ่มแนวร่วมได้เสนอและแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และเสนอให้แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 50 ทั้งฉบับ ซึ่งรวมหมวด 2 พระมหากษัตริย์ด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นเปิดโอกาสให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ หมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ง่าย และหนักข้อมากขึ้น รวมถึงข้อเสนอให้พระมหากษัตริย์ต้องสาบานตนว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและพิทักษ์ไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญก่อนเข้ารับตำแหน่ง โดยกล่าวอ้างถึงประมุขในระบอบประชาธิปไตยของต่างประเทศมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งข้อเสนอต่างๆ ล้วนแล้วแต่สอดรับกับขบวนการล้มสถาบันที่ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง และเหิมเกริมขึ้นทุกวัน และพยายามลดฐานะ ลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
การกระทำดังกล่าวข้างต้นไม่ใช่หนทางในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ แต่ตรงข้ามกลับเป็นการทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร โดยการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อน และเพิ่มความแตกแยกของคนในชาติให้มากขึ้น แทนที่กลุ่มดังกล่าวนี้ควรทำในสิ่งที่สำคัญกว่า คือ เสนอวิธีการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมืองไทยในทุกระดับที่กำลังเป็นมะเร็งร้ายของประเทศนี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ได้ทรงพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม และตลอด 60 ปีที่ครองราชย์พระองค์ทรงดำรงในทศพิศราชธรรม ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานับปราการช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตมานับครั้งไม่ถ้วน พระองค์จึงทรงเป็นดั่งศูนย์รวมใจและทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนของประชาชนทั่วทั้งแผ่นดิน จึงนำไปเปรียบกับประมุขของประเทศอื่นหาได้ไม่
ดังนั้นกลุ่มประชาชนชาวภูเก็ตผู้รักและปกป้องสถาบัน จึงขอคัดค้านกลุ่มนิติราษฎร์และกลุ่มแนวร่วมต่างๆ ที่ร่วมกันเสนอและจะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 50 หมวด 2 พระมหากษัตริย์ โดยให้ยุติการกระทำข้างต้นโดยทันที แต่หากกลุ่มดังกล่าวยังไม่ยุติและมีการดำเนินการล่ารายชื่อในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทางกลุ่มประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตผู้รักและปกป้องสถาบันก็จะดำเนินการคัดค้านและต่อต้านอย่างถึงที่สุด
หลังจากการยื่นแถลงการณ์ดังกล่าวแล้วก็ได้มีการร้องเพลงสรรเสริญ และเพลงสดุดีมหาราชา เมื่อจบแล้วได้มีการเปล่งเสียงทรงพระเจริญ และได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง แม้ว่าก่อนที่จะยื่นหนังสือทางกลุ่มฯ ดังกล่าวได้แสดงความไม่พอใจที่ส่วนราชการลงมารับแถลงการณ์ช้า และได้มีการตะโกนถามว่า เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือไม่
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น