จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สภาองค์กรชุมชนป่าตองขอจัดการตัวเอง



เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่าน ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต สภาองค์กรชุมชนตำบลป่าตอง ได้จัดให้มีการประชุมแสดงความคิดเห็น “เขตพื้นที่ปกครองรูปแบบพิเศษป่าตองจัดการตนเอง” ซึ่งได้รับการสนับสนุนคณะกรรมการสภาพัฒนาการเมืองภาคใต้ สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง จัดขึ้น เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ป่าตอง เกี่ยวกับแนวคิดในการผลักดันให้ตำบลป่าตองปกครองรูปแบบพิเศษ โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม
ขณะที่วิทยากรประกอบด้วย นายปรีดี โชติช่วง รองเลขาธิการสภาพัฒนาเมือง นายจินดา บุญจันทร์ จากสภาพัฒนาชุมชน และนายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ประธานสภาพัฒนาชุมชนป่าตอง


นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ประธานสภาพัฒนาชุมชนป่าตอง กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สภาพัฒนาชุมชนตำบลป่าตองได้มีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็น เรื่อง ป่าตองพื้นที่ปกครองพิเศษสู่การจัดการตนเอง มาแล้วหนึ่งครั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในการที่จะผลักดันให้ป่าตองมีการปกครองรูปแบบพิเศษ เพื่อให้สามารถพัฒนาและแก้ปัญหาให้ได้ทันกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เพราะมองว่า แม้ป่าตองจะเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่ประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับความต้องการและการเจริญเติบโต จึงจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดการตัวเอง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการงบประมาณที่สามารถจัดเก็บได้เอง แทนการจัดสรรมาจากส่วนกลาง และพัฒนาได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน


“ครั้งนี้เป็นการมาพูดคุยกันเป็นครั้งที่ 2 โดยได้เชิญองค์กรต่างๆ และสมาชิกใหม่ๆ เพื่อเสนอรูปแบบในการบริหารตัวเองที่ดีที่สุด ซึ่งก็ได้นำเสนอไปว่า หากต้องการให้ป่าตอง เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับแนวหน้าสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ จะต้องได้รับการพัฒนาและจริงใจที่ส่งจากภาครัฐ โดยเสนอแนวคิดให้เทศบาลเมืองป่าตองขึ้นตรงกับส่วนกลางแต่ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงอย่างเดียว โดยให้เป็นเรื่องระดับประเทศ อาจจะเป็นสำนักนายกรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีที่ดูแลเมืองท่องเที่ยวทั้งหมด อาจจะเป็นภาคี เช่น ป่าตอง สมุย พัทยา เชียงใหม่ เป็นต้น 


ซึ่งจะต้องมารวมกันกำหนดเป็นคณะกรรมการนโยบายการบริหารเมืองท่องเที่ยว โดยมีเจ้ากระทรวงต่างๆ มานั่งประชุมและมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อมอบนโยบายและจัดสรรงบประมาณเพื่อให้เกิดการพัฒนาเมืองในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะต้องมีการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายหรือกฎกระทรวงต่างๆ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น รวมทั้งอยากได้ความชัดเจนของนโยบายเกี่ยวกับเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งผลิตรายได้สำคัญเปรียบเสมือนเป็ดทองคำ” 


นายปรีชาวุฒิ กล่าวว่า หากการแก้ไขกฎระเบียบจนเกิดความคล่องตัวแล้วในการพัฒนา การให้บริการนักท่องเที่ยวให้เกิดความปลอดภัย มีความทันสมัย มีการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่ดี รวมถึงการจัดระเบียบเมืองต่างๆ ที่ดี ซึ่งในการดำเนินการได้ดังกล่าวจะใช้เฉพาะกระทรวงทบวงกรมใดกรมหนึ่งคงไม่พอ แต่ต้องพูดถึงระดับประเทศหรือระดับนโยบายที่จะจัดการเรื่องของเมืองท่องเที่ยวโดยเฉพาะ จึงจะสามารถทำการแข่งขันในตลาดท่องเที่ยวโลกได้ แต่หากยังคงใช้ระบบเดิมคงไม่สามารถตอบสนองและแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้ทันท่วงที 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น