เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 ร.ต.ท.สถาพร สีนุ่น ร้อยเวรสภ.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลเทศบาลตำบลกะรน ว่า พบศพนักท่องเที่ยวลอยกลางทะเล ที่บริเวณหาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลากศพกลับมาขึ้นมาที่บริเวณหาดปากบาง ต.กะรน ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย
หลังจากได้รับแจ้งก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.ท.พาชัย มัธยันต์ รองผกก.ป. นายศุภชัย จันทร์เพ็ชร หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลเทศบาลตำบลกะรน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย ที่เกิดเหตุเป็นชายหาดกะตะ บริเวณใกล้คลองปากบาง เจ้าหน้าที่พบนักท่องเที่ยวกำลังมุงดูที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ศพนายโอลิค อูดารอยด์ (Udaloi Oleg) อายุ 44 ปี สัญชาติรัสเซีย สภาพศพสวมชุดดำน้ำ สีดำ ที่เท้าสวมใส่ตีนกบ 1 คู่ จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกที่เกิดเหตุพร้อมทั้งจัดเก็บสิ่งของไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย นำส่งรพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ได้ทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้จากการสอบถามก็ทราบว่า ผู้ตายได้เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต โดยเข้าพักที่โรงแรมพีชฮิล์ล ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ผู้ตายเป็นคนชอบดำน้ำยิงปลา โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาผู้ตายได้ว่าจ้างเรือหางยาวของชมรมเรือหางยาวหาดกะตะ-กะรน ให้พาออกไปดำน้ำยิงปลาใต้ท้องทะเลที่เกาะปู ต.กะรน ซึ่งห่างจากชายหาดประมาณ 1 กม.โดยผู้ตายได้ดำน้ำลงไปในทะเล ไม่มีถังอากาศหรือเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งครั้งแรกผู้ตายแล้วยิงปลาได้ 4 ตัว โดยการลงดำน้ำยิงปลาของผู้ตายสามารถยิงได้ทุกครั้ง จนผู้ตายติดใจ ลงไปและกลับขึ้นมาได้ 4 ครั้ง และครั้งสุดท้ายครั้งที่ 5 ผู้ตายดำลงไปในทะเล
แต่ครั้งนี้ผู้ตายดำแล้วไม่โผล่ขึ้นมาเหมือนทุกครั้ง คนขับเรือรออยู่ไม่เห็นทีท่าผู้ตายที่จะโผล่ขึ้นมา จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลเทศบาลตำบลกะรน เพื่อขอความช่วยเหลือ ส่งนักประดาน้ำลงค้นหา แต่ก็ไม่พบผู้ตายอย่างไร โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาเป็นเวลา 3 วันแต่ไม่พบ จนกระทั่งเมื่อเช้านี้ ได้ก็รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีศพลอยขึ้นมาเกยตื้นที่ชายหาด จึงเข้าทำการตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นร่างของ นายโอลิค อูดารอยด์ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาทำการตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายดำน้ำลึกเกินไปทำให้น๊อคน้ำหมดสติจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น