จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

เรือนจำภูเก็ตอบรมลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ



เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2556 ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมลูกเสือ-เนตรนารีวิสามัญสำหรับผู้ต้องขัง ซึ่งเรือนจำจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น โดยมี นายสฤษดิ์ สัจจารักษ์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและทัณฑปฏิบัติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต วิทยากร และผู้ต้องขังที่สมัครใจเรียนลูกเสือและเนตรนารีวิสามัญเข้าร่วม จำนวน 120 คน 


ทั้งนี้นายสฤษดิ์ สัจจารักษ์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและทัณฑปฏิบัติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีภารกิจในการควบคุม บำบัด ฟื้นฟูและแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง เพื่อคืนคนดีมีคุณค่าสู่สังคม จึงได้ทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2555 – 2558 ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาพฤตินิสัยเพื่อคืนคนดีสู่สังคม ลดภาระภาครัฐ โดยกำหนดกลยุทธ์ว่า ผู้ต้องขังได้รับการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัย ผู้ต้องขังติดยาเสพติดได้รับการบำบัดฟื้นฟู 


จึงได้ดำเนินการจัดการศึกษาทั้งวิชาวิสามัญ วิชาชีพ การศึกษาตามอัธยาศัย ตลอดจนการอบรมในลักษณะต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองทั้งร่างกาย และจิตใจ โดยเฉพาะด้านคุณธรรมและจริยธรรม ด้านการปลูกฝังให้ผู้ต้องขังเป็นผู้เสียสละ ทำตนให้เป็นประโยชน์ มีระเบียบวินัยในตนเอง ให้ผู้ต้องขังเห็นคุณค่าในตนเอง มีความรับผิดชอบ สามารถทำงาน และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข อีกทั้งปลูกฝังให้มีความเคารพยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 


นายสฤษดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า เรือนจำจังหวัดภูเก็ตได้ตระหนัก และเล็งเห็นถึงความสำคัญ ประโยชน์ของกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีวิสามัญเป็นอย่างยิ่ง จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมลูกเสือ-เนตรนารีวิสามัญสำหรับผู้ต้องขังวัยหนุ่มคดียาเสพติด ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ประจำปี2556 ตามกลยุทธ์ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ในแผนงานที่ 2 การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ต้องได้รับการบำบัดแก้ไข และฟื้นฟู 


เพื่อให้ผู้ต้องขังที่มีประวัติการเสพยาเสพติด ได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ ได้ยึดมั่นในกฎ คำปฎิญาณของลูกเสือ-เนตรนารีวิสามัญ และสามารถนำไปใช้ปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อปลูกฝังกล่อมเกลาให้ผู้ต้องขังมีจิตใจเมตตา เสียสละ และมีสัมพันธภาพอันดีกับเพื่อนมนุษย์ทั่วไป รวมทั้งเปิดโอกาสให้หน่วยงานภายนอกได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังด้วย 


สำหรับเนื้อหาของกิจกรรมและการอบรมนั้น จะเป็นความรู้ด้านภูมิหลังลูกเสือไทย และลูกเสื้อโลก ความมีระเบียบวินัย กฎและคำปฏิญาณของลูกเสือ ทักษะของลูกเสือ กิจกรรมรอบกองไฟ ลูกเสือกับการพฒนาชุมชน ลูกเสือกับการมีคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนความรู้ในด้านการป้องกันตัว และสุขภาพ ความรู้ด้สนการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน


และที่สำคัญรู่จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม โดยการใช้กระบวนการกลุ่มลูกเสือมาช่วยขัดเกลาพฤติกรรม โดยใช้เวลาในการฝึกอบรมจำนวน 4 วัน ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการต่างๆ ได้จัดวิทยากรมาฝึกอบรมตลอดหลักสูตร 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น