เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 ที่ห้องประชุมโรงแรมภูเก็ต ออร์คิด รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการการประชุมเชิงปฏิบัติการ “เวทีเสริมสร้างเครือข่ายพหุภาคี 4 ภาค” ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดขึ้น
โดยมีนางภาวินี อินทุสุต ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายสากล ฐินะกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ผู้แทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา รวมถึงวิทยากรกระบวนการจัดทำแผนในพื้นที่ จากทั่วประเทศ รวมจำนวน 200 คน
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างกลไกการขับเคลื่อนการดำเนินงานแก่เครือข่ายพหุภาคีระดับภาคได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ และกำหนดทิศทางแผนการดำเนินงานในการขับเคลื่อนกิจกรรม เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างมีพลัง และช่วยเหลือพึ่งพากันระหว่างพื้นที่ รวมถึงเกิดการขยายเครือข่ายและแนวความคิดไปยังพื้นที่อื่นบริเวณใกล้เคียงนำไปสู่การพัฒนาชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
นายสากล ฐินะกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า ด้วยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินโครงการท้องถิ่นน่าอยู่อย่างยั่งยืน (Local Agenda 21 :LA 21) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้ชุมชน ท้องถิ่น มีความเข้มแข็งสามารถบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นได้ด้วยตนเอง โดยการมีส่วนร่วมของภาคีทุกภาคส่วน ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมโดยใช้แผนปฏิบัติการท้องถิ่นเป็นเครื่องมือในการดำเนินงาน ส่งเสริมให้ท้องถิ่นนำแผนสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างจริงจัง ทบทวนผลการดำเนินงานเพื่อนำบทเรียนไปใช้ปรับปรุงและพัฒนาทั้งในพื้นที่ตนเองและสมาชิกเครือข่าย ขยายผลและยกระดับให้เป็นแหล่งเรียนรู้ พร้อมทั้งขยายผลไปสู่ท้องถิ่นอื่นๆ ต่อไป
ปัจจุบันมีพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการ จำนวน 126 แห่ง ทั่วทุกภาคของประเทศ ในการดำเนินงาน ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักทั้งด้านงบประมาณและการขับเคลื่อนกิจกรรม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการในระดับพื้นที่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านวิชาการ
และเชื่อมโยงเครือข่ายระดับภาค และระดับประเทศ ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมาเครือข่าย LA 21 ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีหลายพื้นที่ โดยใช้กลไกการขับเคลื่อนในรูปแบบของคณะกรรมการเครือข่าย LA 21 ระดับภาค ซึ่งได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันการดำเนินงานบรรลุสู่เป้าหมาย นายสากลกล่าว
ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า ปัจจุบันประชากรได้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการผลิตและบริโภคตามกระแสโลกาภิวัฒน์ ส่งผลต่อกระทบต่อระบบนิเวศ วิถีชีวิต ก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชน การป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นแบบองค์รวม
จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาท้องถิ่นสู่ความน่าอยู่อย่างยั่งยืน มีความสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ได้นำแนวคิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Growth) มาเป็นกรอบการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในระยะ 5 ปี เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ซึ่งเป็นการปรับกระบวนทัศน์การพัฒนาประเทศสู่สังคมสีเขียว มีแบบแผนและมาตรฐานการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งแวดล้อมได้รับการจัดการอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการสร้างความเป็นธรรมและเกื้อกูลกันในสังคมไทย
ทั้งนี้การขับเคลื่อนการดำเนินงานจะประสบผลสำเร็จได้อย่างแท้จริงต้องยึดหลัก "ประชาชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา" โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมติดตามประเมินผลและร่วมรับผลประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุดและสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเต็มศักยภาพ ต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ และเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินงาน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในระดับพื้นที่ ต้องร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เครือข่าย และผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน นายไมตรีกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น