เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 ที่ห้องประชุมโรงแรมเพิร์ล อ.เมือง จ.ภูเก็ต สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยคณะทำงานเศรษฐกิจภาคบริการและการท่องเที่ยว นำโดยนายปณิติ ตั้งผาติ ประธานคณะทำงานฯ ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น เรื่อง แนวทางการส่งเสริมการเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวของไทย กรณีศึกษาระบบขนส่งมวลชน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในเมืองหลัก
โดยมีนายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต นายจักรกฤษณ์ เอ่งฉ้วน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายนิมิต สัมพันธารักษ์ รองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจภาคบริการและการท่องเที่ยว กล่าวสรุปภายหลังการรับฟังความคิดเห็นว่า จังหวัดภูเก็ตเป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่ทางคณะทำงานฯ กำหนดจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น เรื่องแนวทางการส่งเสริมการเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวของไทย กรณีศึกษาระบบขนส่งมวลชน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในเมืองหลัก เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในการกำหนดแนวทางเพื่อส่งเสริมการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว
จากการประชุมครั้งนี้สามารถสรุปประเด็นปัญหาได้ 8 ประเด็นหลัก คือ 1.ปัญหาจราจรติดขัดในเส้นทางหลักจากสนามบินมายังตัวเมืองภูเก็ต โดยมีผู้เสนอว่า ควรจะเพิ่มทางเลือกในการเดินทางทางน้ำด้วยการสร้างท่าเรือบริเวณสนามบิน เพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อลดภาระการจราจรทางบก 2.ปัญหาป้ายบอกเส้นทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวมีความสับสนไม่ชัดเจน ได้มีการเสนอให้บูรณาการการจัดทำป้ายของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยให้ทำเฉพาะเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เกิดความชัดเจน
3.ปัญหาเส้นทางการจราจรหรือถนนมีไม่เพียงพอรองรับปริมาณการใช้ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากมีการตัดเส้นทางใหม่จะติดปัญหากฎหมายสิ่งแวดล้อม 4.ปัญหาการเพิ่มรถโดยสารประจำทางจากสนามบินไปยังหาดกะตะติดปัญหาการคัดค้านของผู้ประกอบการรถแท็กซี่ 5.ปัญหาการกำจัดขยะที่เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว เนื่องจากสถานที่กำจัดอยู่ในเมืองเพียงแห่งเดียว 6.การขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยการเพิ่มรันเวย์ทำได้ยาก เนื่องจากติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
7.จากการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตแบบก้าวกระโดด จาก 10 ล้านคน เป็น 12-15 ล้านคน ทำให้เกิดปัญหาด้านการบริหารจัดการต่างๆ มีความยุ่งยาก โดยมีผู้เสนอให้จังหวัดภูเก็ตมีการปกครองรูปแบบพิเศษ และประเด็นที่ 8 ปัญหากระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ทั่วไป เสนอให้ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ เช่น โรงแรม ศูนย์การค้า เป็นต้น จัดหาเครื่องปั่นไฟฟ้าของตนเอง เพื่อใช้ในกรณีที่ใช้กระแสไฟฟ้าเกินกว่าที่กำหนด
อย่างไรตามได้มีการสรุปในภาพรวมว่า ประเด็นแรก ในเรื่องของระบบขนส่งเมื่อมีปัญหาค่อนข้างมาก ภูเก็ตควรมีการจัดทำระบบขนส่งมวลชนได้หรือไม่ ประเด็นที่ 2 ในการขออนุญาตจัดทำโครงการขนาดใหญ่ของรัฐมักจะติดขัดในเรื่องของข้อกฎหมายต่างๆ ดังนั้นควรที่จะตั้งให้จังหวัดภูเก็ตมีการปกครองแบบเขตเศรษฐกิจการท่องเที่ยวพิเศษหรือไม่ ซึ่งเขตเศรษฐกิจการท่องเที่ยวพิเศษ อาจจะรวมถึงพังงา กระบี่และจังหวัดใกล้เคียงด้วย
โดยให้จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลาง เพราะภูเก็ตมีพื้นที่ที่จำกัด ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งข้อมูลปัญหาและทางออกที่มีการนำเสนอทั้งหมดจะนำไปเสนอให้คณะรัฐมนตรีทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไปนายนิมิตกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น