จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดีเอสไอยึดตู้คาราโอเกะตรวจสอบขยายผู้อยู่เบื้องหลัง



เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 8 และภาค 9 นำโดยนายอุดม เพชรคุต ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ภาค 8 พร้อมเจ้าหน้าที่ฯ และตัวแทนบริษัท ลิขสิทธิ์เพลง จำกัด ได้นำเจ้าของ/ผู้ดูแลร้านคาราโอเกะ 


ประกอบด้วย ร้านส้มโอคาราโอเกะ ร้านสร้อยฟ้าคาราโอเกะ ร้านน้องมาร์คคาราโอเกะ ร้านศิลาคาราโอเกะ ร้านน้องกรีนคาราโอเกะ ร้านน้องจอยคาราโอเกะ ร้านแม่ยายคาราโอเกะ ร้านน้ำผึ้งราคาโอเกะ และร้านลมเหนือคาราโอเกะ ซึ่งร้านต่างๆ ตั้งกล่าวตั้งอยู่บริเวณย่านถนนศรีเสนา อ.เมืองภูเก็ต และพื้นที่ อ.กะทู้ มาจัดทำบันทึกตรวจยึดตู้เพลงคาโอเกะ และสมุดบัญชีรายชื่อเพลงของแต่ละร้านไปทำการตรวจสอบอย่างละเอียด 


หลังเข้าตรวจสอบโดยการล่อซื้อเปิดเพลงและพบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของบริษัทดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อกล่าวกับเจ้าของ/ผู้ดูร้านต่างๆ ดังกล่าว ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลงด้วย ทั้งนี้ได้มีการรวบรวมนำตู้เพลงคาราโอเกะดังกล่าวไปดำเนินการต่อที่สำนักงานศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 8 จ.สุราษฎร์ธานี


อย่างไรก็ตามจากการสอบสวน ผู้ดูแลร้าน ทราบว่า ทางร้านได้มีการเช่าตู้คาราโอเกะหยอดเหรียญมาให้บริการกับลูกค้า โดยตู้ดังกล่าวจะมีสติ๊กเกอร์แสดงวันเวลาเริ่มและวันหมดอายุอนุญาต ซึ่งทางเจ้าของตู้ที่ให้เช่าบอกว่าเสียค่าลิขสิทธิ์เพลงแล้ว และให้ค่าตอบแทนแก่ทางร้านร้านคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนเงินในตู้ และไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าตู้คาราโอเกะดังกล่าวได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของที่แท้จริง 


นายอุดม กล่าวถึงการเข้าตรวจยึดตู้คาราโอเกะดังกล่าวว่า ด้วยทางบริษัทลิขสิทธิ์เพลง จำกัด ได้เข้าร้องทุกข์มอบคดีให้กับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีกับผู้ทำกระทำผิดในข้อหา ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของบริษัท ลิขสิทธิ์เพลง จำกัด โดยมีการนำตู้คาราโอเกะที่มีเพลงของนักร้องที่บริษัทฯ เป็นผู้สร้างสรรผลงานเพลง งานดนตรีกรรม งานสิ่งบันทึกเสียง งานโสตทัศนวัสดุ และผลิตจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในราชอาณาจักร ฯ นำไปบรรจุอยู่ในรูปของฮาสดิสหรือแผ่นวิซีดีคาราโอเกะอยู่ในตู้คาราโอเกะไปเสนอให้กับร้านค้าในจังหวัดภูเก็ต และเปิดให้ลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวในร้านฟังหรือร้องโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ทางการค้า ซึ่งมีการรับคำร้องทุกข์ไว้ทำการสืบสวนเป็นคดีพิเศษแล้ว 


“ก่อนที่จะลงมาจับกุมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาสำรวจกลุ่มเป้าหมายไว้ก่อนแล้ว จากนั้นได้เสนอขออนุมัติจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และลงมาดำเนินการร่วมกับทางผู้เสียหาย โดยสนธิกำลังกับทางศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 9 แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เข้าดำเนินการใน 3 จุด ซึ่งมีการให้บริการตู้คาราโอเกะหยอดเหรียญ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทางผู้เสียหายยืนยันว่าร้านต่างๆ ที่เข้าทำการตรวจสอบนั้นมีการละเมิดลิสิทธิ์เพลงของทางบริษัทฯ จริง จึงได้ยึดตู้คาราโอเกะเพื่อไปตรวจสอบ 


พร้อมควบคุมตัวผู้ดูแลร้านดำเนินคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ หลังจากนี้ก็จะยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะจากการตรวจสอบพบว่ายังมีร้านที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดังกล่าวอีกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยว (ศปอท.) จังหวัดภูเก็ต ซึ่งนอกจากมีการปราบปรามในเรื่องของมาเฟียแล้ว จะมีการดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ด้วย เพื่อสาวไปให้ถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และเป็นเจ้าของสติกเกอร์ที่อ้างกับทางผู้เช่าว่าเมื่อติดสติกเกอร์ดังกล่าวแล้วไม่มีปัญหา” นายอุดมกล่าว 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น