จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

“บายพาส บิซ ทาวน์” หวังเป็นแลนด์มาร์กทางธุรกิจ



นายบุญ ยงสกุล กรรมการบริหาร บริษัท โบ๊ทดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และนายภาณุพงศ์ กริชจนรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวภายหลังการเปิดเปิดพรีเซล โครงการบายพาส บิซ ทาวน์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนบายพาส (ใกล้กับแสงชัยแมคโคร) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ว่า 


การพัฒนาโครงการบายพาส บิซ ทาวน์ ขึ้นนั้น เพื่อต้องการให้เป็นแลนด์มาร์กทางธุรกิจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต โดยเน้นการทำธุรกิจเป็นหลัก ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอนั้นเพื่อให้ผู้ที่มาทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการค้าขาย การเปิดบริษัทหรือสำนักงาน 


นอกจากนี้ยังมีการแบ่งพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยในราคาที่ไม่สูงเกินไป ด้วยจุดเด่นของทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่บริเวณถนนบายพาส มีการออกแบบอาคารที่ทันสมัยและมีการจัดระเบียบผู้ซื้อไปในตัว เนื่องจากระดับราคาค่อนข้างสูง และมีพื้นที่จอดรถจำนวนมาก 


“พื้นที่รวมของโครงการทั้งหมดจะมีประมาณ 100 ไร่ ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส โดยเฟสแรก เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ ประกอบด้วย โฮมออฟฟิต 4 ชั้น มีจำนวน 8 ยูนิต หน้ากว้าง 5 เมตร ราคาเริ่มต้น6.5 ล้านบาท, วิลล่านอติกา 


ซึ่งออกแบบคล้ายบ้านพักตากอากาศ สไตล์รีสอร์ท มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท, อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร มีจำนวน 12 ยูนิต และกว้าง 4.5 เมตร มีจำนวน 16 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.4 ล้านบาท 


โดยได้เตรียมพื้นที่ติดตั้งป้ายชื่อร้านไว้ให้ด้วย รวมมูลค่าโครงการประมาณ 400 ล้านบาท เฟส 2 เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หรือคอนโดออฟฟิศ มีความสูงประมาณ 8 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ อยู่ระหว่างการออกแบบ มีให้เลือกทั้งแบบเช่าและขาย ออกแบบโดยเน้นความหรูหรา และมีน้ำพุสูงประมาณ 5 เมตร ตั้งอยู่หน้าอาคาร 


เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กย่านธุรกิจการค้าแห่งใหม่ที่คนจะต้องพูดถึง เนื่องจากปากทางเข้าโครงการจะอยู่บริเวณจุดกลับรถถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หรือบายพาส (ใกล้กับแสงชัยแมคโคร) ซึ่งอนาคตอาจจะมีการปรับเป็นสามแยก โดยจะเปิดตัวประมาณปลายปีนี้ มีมูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท 


เฟสที่ 3 จะมีลักษณะคล้ายกับเฟสแรก ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด และเฟสที่ 4 จะเป็นพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตามแผนงานที่วางไว้นั้นจะทำในลักษณะของตลาดน้ำ เนื่องจากภายในโครงการมีลำคลองตัดผ่าน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการออกแบบรายละเอียด ซึ่งจะใช้เวลาในการพัฒนาทั้งหมดประมาณ 3 ปี รวมมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท” 


นายภาณุพงศ์ กล่าวด้วยว่า จากการพัฒนาโครงการที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะสามารถขายหมดภายในวันเดียว และโครงการนี้ก็คาดหวังว่าจะไม่แตกต่างกัน โดยหลังจากที่เปิดตัวมาระยะหนึ่งได้รับการตอบรับดีพอสมควร ภาพรวมมีผู้สนใจแล้วกว่า 80 % นอกจากนี้ทางโครงการฯ ยังได้มีการจัดทำถนนเพื่อรองรับการสัญจรไปทั้งของลูกค้าในโครงการ และประชาชนทั่วไปเป็นทางลัดในการเข้า-ออกถนนบายพาส และยังจะเป็นการเปิดพื้นที่โครงการให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น