จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ตรวจยึดช้างในภูเก็ต 7 ตัวเก็บเลือดพิสูจน์ดีเอ็นเอ



เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) นำโดย พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผบก.ปทส. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กรมป่าไม้, องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้, สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต ตำรวจทางหลวง, ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจน้ำ จำนวนกว่า 100 นาย

 

ลงพื้นที่ตรวจยึดช้างจำนวน 7 ตัว (ช้างบ้าน) ซึ่งอยู่ใน 69 ตั๋วรูปพรรณที่นายสุรัตน์ เติมศักดิ์ และนายประสงค์ บุตรชัยภูมิ เป็นผู้ยื่นเรื่องขอออกตั๋วรูปพรรณช้างที่ อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ โดยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า มีการนำช้างป่าลักลอบนำเข้ามาซักฟอกให้กลายเป็นสัตว์พาหนะ จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงตรวจยึดช้างพร้อมกันใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงาและกระบี่ ซึ่งมีช้างที่เข้าข่ายและจะต้องทำการอายัดไว้จำนวน 14 ตัว จากที่ได้ทำการอายัดไว้ทั่วประเทศจำนวน 26 ตัว และยังคงต้องมีการค้นหาเพิ่มเติมอีก 33 ตัว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 7 ชุด เข้าตรวจยึดช้าง จำนวน 7 ตัว ได้แก่ ปางช้างใสยวน ชื่อพังน้ำฝน, ปางช้างซีวิว ชื่อช้างบุญรอด, ปางช้างพาราไดซ์ ภูเก็ต ทริป ชื่อช้างน้ำฝน, บ้านเลขที่ 139/4 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ชื่อช้างพลายพิมาย, โรงแรมแมริออท ชื่อ ช้างพังต้นข้าว, ปางช้างอีโค อีเลฟเฟ่นท์ ไลนด์ดิ่ง ชื่อช้างบุญหลาย และปางช้างกินรี ลาเท็กซ์ ชื่อพังน้ำเพชร โดยได้เก็บตัวอย่างเลือด เพื่อนำไปเปรียบเทียบ DNA และตรวจตั๋วรูปพรรณของช้างว่าตรงกับที่อายัดไว้หรือไม่ พร้อมกันนี้ยังได้มีการตรวจหาไมโครชิพด้วย

พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการตรวจค้นบ้านพักของนายคำพัน นาคดี (ควาญช้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่บ้านเลขที่ 1/77 ม.5 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบตั๋วรูปพรรณช้าง (ส.พ.5) ฉบับจริง ออกจากที่ว่าการ อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ จำนวน 9 ฉบับ และไมโครชิพ จำนวน 1 อัน (ยังไม่มีการใช้) โดยที่ไม่มีตัวช้างตามที่ระบุไว้ในตั๋วรูปพรรณช้าง จึงได้ทำการสืบสวนต่อเนื่องจนพบว่า ได้มีนายสุรัตน์ เติมศักดิ์และนายประสงค์ บุตรชัยภูมิ เป็นผู้ยื่นเรื่องขอออกตั๋วรูปพรรณช้าง ต่อนายอำเภอเมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ จำนวน 69 ฉบับ

และจากการตรวจสอบตัวช้างตามตั๋วรูปพรรณดังกล่าว พบว่ามีช้างที่อ้างตั๋วรูปพรรณดังกล่าว จำนวน 26 ตัว โดยอยู่ในจังหวัดพังงา 5 ตัว จังหวัดภูเก็ต 7 ตัว จังหวัดกระบี่ 2 ตัว จังหวัดกาญจนบุรี 2 ตัว จังหวัดสุรินทร์ 6 ตัว จังหวัดชัยภูมิ 1 ตัว จังหวัดชลบุรี 1 ตัว และจังหวัดตราด 2 ตัว จึงได้ทำการอายัดช้างจำนวน 26 ตัวไว้กับผู้ครอบครองช้างในแต่ละพื้นที่แล้ว

“เหตุที่ไม่มีการเคลื่อนย้ายช้าง เพื่อเป็นการป้องกันการบาดเจ็บและลดค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้าย แต่จะว่าจ้างเจ้าของปางช้างช่วยดูแลรักษา ร่วมกับเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากที่ผ่านมามีช้างบาดเจ็บและตายระหว่างการเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง ประกอบกับการขนส่งแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายกว่า 100,000 บาทด้วย โดยมีข้อห้ามไม่ให้นำช้างดังกล่าวมาจัดแสดงหรือหาประโยชน์จากช้างที่ถูกอายัดหรือสวมสิทธิ์อีก ซึ่งจะมีทางเจ้าหน้าที่มาดูแลเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง”

พล.ต.ต.นรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อเป็นการปรามเพื่อป้องกันการกระทำผิด รวมถึงการขยายผลไปถึงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนรู้เห็นการออกตั๋วรูปพรรณช้าง ซึ่งจะได้ค่าจ้างออกตั๋วรูปพรรณช้างใบละ 50,000-60,000 บาท ทั้งนี้จะเป็นการดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่อง และหวังว่าจะทำให้ลดจำนวนช้างที่ถูกล่าวได้

ขณะที่นายจรุง เถาจันทร์ เจ้าของช้างพลายน้ำเพชร กล่าวว่า ได้ซื้อช้างดังกล่าวมาจากปางแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ราคา 1.3 ล้านบาท ก่อนตัดสินใจซื้อได้สอบถามไปยังปศุสัตว์จังหวัดแล้ว ทราบว่าเคยถูกเจ้าหน้าที่ ปทส.อายัดไว้ เพื่อรอการตรวจสอบเมื่อช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2555 มาแล้ว 1 ครั้ง จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2555 ได้ถอนอายัดเป็นที่เรียบร้อย จึงคิดว่า ไม่น่าจะเกิดปัญหาขึ้นอีก จึงตัดสินใจซื้อมาดูแล เมื่อในเดือนมกราคม 2556 แต่พอเกิดปัญหาขึ้น ก็พร้อมให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายในระหว่างนี้ก็จะดูแลช้างต่อไปให้ดีที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น