เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2556 ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาทางรัฐประศาสนศาสตร์ ประจำปี 2556 ซึ่งนักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ รุ่น 53 ห้อง รปศ. 531 และ 532 มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต จัดขึ้น
เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน ทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นและผลกระทบต่างๆของประชาคมอาเซียนที่มีต่อการบริหารและการจัดการของภาครัฐ โดยมี ผศ.ดร.ประภา กาหยี รักษาการอธิบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต, นายธวัชชัย ทุมทอง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, อาจารย์ประจำภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ ตลอดจนนักศึกษาสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ทุกชั้นปี เข้าร่วมประมาณ 500 คน
นายธวัชชัย ทุมทอง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันแล้วว่าในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรวมประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพด้านการเมือง รวมทั้งสร้างความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและสังคม อันจะส่งผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบต่อประเทศไทย โดยเฉพาะในภาครัฐซึ่งมีบทบาทความสำคัญต่อประเทศไทยอันเป็นอย่างมาก ทั้งการบริหารราชแผ่นดินส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
“การสัมมนาทางรัฐประศาสนศาตร์ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ต้องการมุ่งให้นักศึกษา ศึกษารายกรณีทางรัฐประศาสนศาสตร์ โดยเน้นการนำองค์ความรู้ ทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์กับองค์ความรู้ของท้องถิ่นมาบูรณาการ และประยุกต์ใช้ในการศึกษาประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานภาครัฐ การบังคับใช้กฎหมายของรัฐ การพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น วิธีการบริหารจัดการ และแนวทางแก้ไขปัญหาด้านการบริหารต่างๆ และนำข้อค้นพบจากการศึกษามาปฏิบัติการสัมมนา ทั้งนี้เพื่อที่จะได้นำเอาองค์ความรู้ที่ได้นำมาไปสู่การปฏิบัติต่อเวทีสาธารณะ”
นายธวัชชัย กล่าวด้วยว่า ในการนี้สาขาวิชารัฐประศาสนศาตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดสัมมนาทางรัฐประศาสนศาสตร์ ภายใต้หัวข้อ บทบาทและทิศทางการบริหารราชการ นำไทยสู่อาเซียน ทั้งนี้เพื่อสร้างความตื่นตัวและสร้างความตระหนักถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในภาครัฐ โดยเฉพาะการบริหารราชการในส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต ได้ใช้ประโยชน์จากการเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้รับทราบบทบาทและทิศทาง ในการลดหรือป้องกันการเกิดผลกระทบทางลบต่อภาครัฐต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น