จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ป่าไม้สนธิกำลังป้องปรามบุกรุกป่าสงวนในพื้นที่ภูเก็ต



เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2556 ที่บริเวณที่ทำการสวนบางป่าบางขนุน ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายเชวง ไชยหลาก ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เป็นประธานเปิดและปล่อยแถว “ยุทธการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ในท้องที่จังหวัดภูเก็ต” ซึ่งทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ 


โดยมีนายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายภิญโญ พวงจิต หัวหน้าสวนป่าบางขนุน ตลอดจนกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าในสังกัด 3 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา และกระบี่ จำนวน 12 หน่วย เจ้าหน้าที่สวนป่าบางขนุน และเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการประทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ภาคใต้ รวม 100 นาย 


ได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เข้าดำเนินการตรวจพื้นที่เขตป่าสวนแห่งชาติในจังหวัดภูเก็ตที่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย สวนป่าบางขนุน เทือกเขานาคเกิด และเทือกเขากมลา ซึ่งแต่ละจุดจะมีหัวหน้าชุดคอยกำกับดูแล เพื่อออกตรวจสอบกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิด เป็นการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ รวมทั้งยังเป็นการปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ในจังหวัดภูเก็ตด้วย 


นายอำนาจ สร้อยเกียว ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ กล่าวว่า สืบจากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเรื่องมีผู้บุกรุกเข้ามาลักลอบตัดไม้กฤษณาเป็นจำนวนมากในพื้นที่ของสวนป่าบางขนุนนั้น และอธิบดีกรมป่าไม้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขและปราบปรามอย่างจริงจัง โดยนำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าในสังกัดฯ เข้ามาตรวจสอบในส่วนของพื้นที่ที่มีการตัดไม้กฤษณาและพื้นที่ที่มีผู้บุกรุก 


ซึ่งได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 3 คดี มีไม้กฤษณาของกลางที่ถูกตัดจำนวน 4 ต้นจำนวน 11 ท่อน และพื้นที่ที่ถูกบุกรุกจำนวน 2 แปลง แปลงแรก เนื้อที่ กว่า 12 ไร่เศษ และพื้นที่ 10 ไร่เศษ ทั้งนี้ปฏิบัติการณ์ดังกล่าวเป็นการลงตรวจสอบพื้นที่ล่อแหลมที่คาดว่า น่าจะมีเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มคนเหล่านี้ จึงจำเป็นต้องมีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าเอ็กซเรย์พื้นที่ทุกตารางนิ้ว 


ทั้งนี้ส่วนป่าบางขนุนมีพื้นที่รวม 5,000 ไร่ ได้มีการปลูกป่าทดแทนไปแล้ว 4,800ไร่ มีประชาชนบุกรุกจำนวน 268 ราย เนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการตรวจสอบจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่อง นายอำนาจกล่าว 


ทางด้าน นายเชวง ไชยหลาก ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กล่าวภายหลังเป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ฯ ว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นการปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เขตป่าสงวนฯทั้ง 3 แห่ง และมีการนำกฎหมายเข้าดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะพื้นที่สวนป่าบางขนุนซึ่งมีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 


ประกอบกับสวนป่าบางขนุนอยู่ในพื้นที่ติดกับชุนชม จึงเป็นที่ต้องการของชาวบ้านหรือผู้บุกรุก ที่มีความต้องการนำที่ดินเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์และแสวงหาผลประโยชน์ เช่น การสร้างรีสอร์ตหรือสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นที่เขตป่าสงวนฯ จึงเข้ามาจับจอง ด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ 


แม้ว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้พยายามจะเข้าไปพูดคุยให้ชาวบ้านในพื้นที่ทราบถึงตัวบทกฎหมาย แต่ก็ยังมีบางส่วนไม่เข้าใจ โดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาตัดไม้กฤษณานั้น แต่จากการตรวจสอบพบว่า มืที่มีการลักลอบตัดนั้นส่วนใหญ่จะไม่ใช่ไม้กฤษณาทั้งหมด แต่จะเป็นไม้ในตระกูลเดียวกัน 


และเมื่อมีการโค่นลงมาแล้วปรากฏว่า ไม้เหล่านี้ไม่ได้สร้างมูลค่าพอที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นกลุ่มเหล่านี้จึงต้องทิ้งไม้ไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการทำลายป่าไม้ในพื้นที่และน่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะไม้แต่ละต้นกว่าจะเติบโตต้องใช้เวลานานจึงจำเป็นจะต้องใช้กฎหมายเข้ามาจัดการอย่างจริงจัง 


ทั้งนี้นายเชวง กล่าวต่อว่า อยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและรักษาพื้นที่ป่าสงวนฯ ให้มากขึ้น เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ มีไม่เพียงพอต่อการควบคุมดูแลเขตป่าสงวนฯ ซึ่งในแต่ละแห่งจะมีพื้นที่กว่า 1,000 ไร่เศษ ส่วนกรณีการลักลอบตัดไม้กฤษณาในพื้นที่สวนป่าบางขนุนนั้น ได้สั่งให้หัวหน้าสวนป่าฯ ออกตรวจตราการกระทำความผิด รวมทั้งเตรียมดำเนินการจัดพิธีบวชป่า เพื่อรักษาต้นไม้ที่ยังคงมีอยู่ 


และเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกให้คนในพื้นที่ร่วมกันรักษาป่า รวมทั้งให้ทำการสำรวจพื้นที่ ทำเรื่องของบประมาณทำแนวเขตขึ้นมาใหม่ ป้องกันการบุกรุกของชาวบ้าน รวมทั้งทำลายเส้นทางถนนทางเข้าสวนป่าฯ ทั้งหมด เนื่องจากเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เส้นทางรถยนต์ แต่การสำรวจในแต่ละครั้งจะใช้วิธีเดินทางแทน นอกจากนี้ก็จะได้มีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่อไปด้วย 


อย่างไรก็ตามหลังจากการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าในสังกัดฯ แล้ว นายเชวง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณไม้กฤษณาที่ถูกผู้ลักลอบเข้ามาตัดในเขตสวนป่าบางขนุนที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบจุดแรกที่มีเส้นทางรถยนต์ห่างจากที่ทำการสวนป่าบางขนุนประมาณ 500 เมตร พบว่า มีตอไม้กฤษณาจำนวนกว่า 5 ต้นถูกตัดทิ้งไว้ 


ถัดไปห่างจากจุดดังกล่าวประมาณ 300 เมตร มีเส้นทางรถยนต์เข้าไปในสวนป่าฯ พบพื้นที่ที่ถูกผู้บุกรุก ทั้ง 2 แปลง จำนวนกว่า 22 ไร่เศษ ทางเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้มีการนำป้ายขนาดใหญ่เข้ามาปัก เพื่อเป็นการแสดงว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของสวนป่าและอยู่ระหว่างการดำเนินคดี เพื่อหาผู้กระทำผิด นอกจากนี้ยังพบว่ามีการปักหลักเขตเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ไม่ปรากฏว่ามีใครมาแสดงตัว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น