จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เตรียมถอนเอกสารสิทธิในเขตอุทยานฯ สิรินาถ



เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2556 ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติสิรินาถ (หาดในยาง) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายเสริมยศ สมมั่น รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ

โดยมีพ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.), นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินการ พร้อมกันนี้ยังได้มีการลงตรวจสอบพื้นที่ที่มีการบุกรุกในเขตอุทยาน 2 จุด บริเวณหาดในยาง เนื้อที่ สค.1 จำนวน 9 ไร่ แต่ออกเป็น 21 ไร่ และบริเวณบ้านในทอน เนื้อที่ประมาณ 17 ไร่  ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมพื้นที่พัฒนาก่อสร้าง

สำหรับการประชุมดังกล่าวได้มีการสรุปผลการตรวจสอบเอกสารสิทธิ และการปราบปรามการบุกรุกยึดถือที่ดินอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ในระยะที่ดิน ซึ่งมีการดำเนินการตรวจสอบจำนวน 11 แปลง เนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ ซึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิและเพิกถอนเอกสารสิทธิ นอกจากนี้พบว่าบางแปลงที่มีการดำเนินการอย่างถูกต้องก็ต้องกันเนื้อที่ออกไป

โดยที่ดินที่จะสามารถนำกลับคืนมาเป็นของอุทยานได้อย่างแน่นนอนประมาณ 1,200 ไร่, ระยะที่ 2 มีการตรวจสอบจำนวน 4 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 184 ไร่ และระยะที่ 3 จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ประมาณ 416 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าน่าจะสามารถเสนอให้มีการเพิกถอนที่ดินกลับคืนมาเป็นของแผ่นดินได้ประมาณ 4 แปลง และอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจนอีก 2แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 600 ไร่

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการสำนักคดีคุ้มครองผู้ บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอกล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมร่วมกันนั้น เพื่อทบทวนเรื่องราว-ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ตลอดจนความคืบหน้าในการทำงาน เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานต่อไป ซึ่งจากการที่ได้มีการร้องขอให้ดีเอสไอรับให้คดีดังกล่าวบางคดีเป็นคดีพิเศษ แต่คงต้องขอทำการบ้านและหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะนำเสนอให้คณะกรรมการดีเอสไอรับเข้าสู่กระบวนการให้เป็นคดีพิเศษ เบื้องต้นน่าจะมี 2 คดี ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

เบื้องต้นพื้นที่ดังกล่าวมีสิ่งปลูกสร้างและเป็นโรงแรมหรู เพราะในการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบนั้นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายร่วมกันวิเคราะห์ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลภาพถ่ายทางอากาศ เป็นต้น ซึ่งถือว่ามีความสำคัญในคดีเป็นอย่างมาก ส่วนกรณีบางรายหรือบางคดีและบางแปลงพนักงานสอบสวนในพื้นที่นั้นๆ มีคำสั่งไม่ฟ้องก็จะต้องนำมาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ว่าเพราะเหตุผลใด

ขณะที่นายเสริมยศ สมมั่น รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชฯ กล่าวสรุป ว่า ในการดำเนินการตรวจสอบการบุกรุกออกเอกสารสิทธิในอุทยานฯ สิรินาถนั้น ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 11 แปลงเนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ และการประชุมครั้งเพื่อเร่งตรวจสอบความคืบหน้าของคดี ยืนยันว่าเราจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุดทุกคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 6 แหลง และในจำนวนดังกล่าวมีความชัดเจน 4 แปลงว่ามีการบุกรุกที่อุทยานฯ ซึ่งก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

“ยอมรับว่าที่ผ่านมาการตรวจสอบต่างๆ มีการคุกคามจากกลุ่มนายทุนที่ก่อสร้างโรงแรม-รีสอร์ทหรูในพื้นที่ที่เชื่อว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบหรือทับพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เนื่องเราไปขวางการทำโรงแรม-รีสอร์ทที่มีมูลค่ามหาศาล โดยการคุกคามมีหลากหลายรูปแบบ แต่ก็ไม่ได้หวั่นไหว ตราบที่ยืนอยู่ในความถูกต้อง ซึ่งผู้ถือครองเอกสารสิทธิ์ที่ทำการตรวจสอบอยู่ในขณะนี้จะเป็นเพียงกลุ่มนายทุนทั่วไป โดยไม่มีการสั่งการมาจากการเมือง และในส่วนของรัฐมนตรีว่าการฯ ได้สั่งกำชับและสั่งการโดยเด็ดขาด ทุกอย่างจะต้องนำผืนป่ากลับคืนมาให้กับแผ่นดิน” นายเสริมยศกล่าว

ทางนายนายชีวะภาพ ชีวะธรรมหัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่บนบกของอุทยานแห่งชาติสิรินาถมีเนื้อที่ประมาณ 12,000 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่าถูกบุกรุกไปประมาณ 3,000 ไร่ และจากการที่ได้ดำเนินการตรวจสอบตามยุทธการทวงคืนที่ดินอุทยานฯ มาตั้งแต่ปลายปี 2555 จนถึงขณะนี้ มั่นใจว่าเราจะได้ที่ดินคืนกลับมาประมาณ 1,200 ไร่ แบ่งเป็นระยะที่ 1 จำนวน 11 คดี เนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ซึ่งชัดเจนแล้วจะสามารถเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยไม่ชอบได้อีก 4 แปลง และอีก 2 แปลง ซึ่งเป็น สค.1 จำนวน 1 แปลง และโฉนด 1 แปลง อยู่ระหว่างการหาหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งหมด 6 แปลง เนื้อที่รวม 600 ไร่

“การดำเนินการในระยะที่ 2 และ 3 จะเป็นแปลงที่มีขนาดใหญ่และมีหลักฐานชัดเจน เริ่มมีการพัฒนาพื้นที่ เนื้อที่รวมประมาณ 600 ไร่ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีการมายื่นคัดค้านจำนวน 3 แปลง ซึ่ง 2 ใน 3 แปลงอยู่ในขั้นของการหาหลักฐาน เพราะจะต้องใช้หลักฐานในเชิงนิติวิทยาเกี่ยวกับระเบียบต่างๆ” นายชีวะภาพกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น