จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รวบแล้วฆาตกรโหดฆ่ามีดปักหลังสาวเมืองอุดร



เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง.ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสมคิด หรือ หนึ่ง สายเสนา อายุ 33 ปีอยู่บ้านบ้านเลขที่ 66/9 ซ.ชุมชนขามคู่ หมู่ 1 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาคดี ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 



จากการก่อเหตุฆ่านางสาววาสนา หรือหมิว เลิศสงคราม อายุ 17 ปี ถึงแก่ความตายที่ รพ.อบจ.ภูเก็ตเมื่อเวลา 01.50 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ขณะเดินจูงหลานชายวัย 2 ขวบออกไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและปลากระป๋องที่ห้างเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพลสหน้าปากซอยตันกูล ถ.ศรีเสนา ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่นายสมคิดสวมใส่ในวันเกิดเหตุ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีมสีแดง ทะเบียน กมค 740 นราธิวาส 


โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า นางสาววาสนา จริง โดยต้องการสร้อยคอทองคำที่ผู้ตายใส่อยู่ไปขาย เพื่อหาเงินมาใช้จ่าย หลังจากตกงาน แต่ผู้ตายไม่ยอมและต่อสู้ขัดขืน จึงใช้มีดปลายแหลมที่พกอยู่ชักออกมาจวงแทงจนเสียชีวิตดังกล่าว 


ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ก้ได้ทำการสืบสวนโดยมีพยานหลักฐานจากคำให้การของพยาน ภาพจากกล้องวงจรปิด และการตรวจสอบประวัติบุคคลพ้นโทษ ซึ่งมีประวัติก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ ทำให้ทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ คือ นายสมคิดหรือหนึ่ง สายเสมา จากนั้นทางพนักงานสอบสวมจึงขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับ ในข้อหาว่ากระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และสามารถจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักเลขที่ 66/9 (ซอยชุมชนขามคู่) หมู่ที่ 1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต และตรวจค้นภายในบ้านพัก


พร้อมตรวจยึดของกลาง เสื้อยืดคอกลมสีขาว จำนวน 1 ตัว กางเกงกีฬาสีกรมท่า มีแถบขาว จำนวน 1 ตัว รองเท้ายางแบบสวมสีดำ 1 คู่ ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายที่ใช้ในวันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีมสีแดง ทะเบียน กมค 740 นราธิวาส ซึ่งเป็นพาหนะที่ใช้ขับขี่ก่อเหตุและหลบหนี 


เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ที่กระทำลงไปนั้น เนื่องจากเห็นผู้ตายสวมสร้อยคออยู่ และไม่ได้รู้จักผู้ตายมาก่อน จึงได้ติดตามไปลงมือก่อเหตุ เพื่อชิงเอาสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึง แต่ไม่ได้ไป เนื่องจากผู้ตายขัดขืน และในระหว่างที่ลงมือได้มีกลุ่มพลเมืองดีพบเห็นเหตุการณ์ และวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ จึงขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไปซ่อนตัวในบ้านพัก จนกระทั่งถูกจับกุม 


พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยมีคดีเมื่อประมาณ 4 – 5 ปีที่ผ่านมา โดยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต ในส่วนของการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้นคงต้องดูความเหมาะสมอีกครั้ง อาจจะทำเพียงบางจุดที่มีการพบทรัพย์สินหรือซ่อนทรัพย์สิน หรืออุปกรณ์ที่ใช้การก่อเหตุ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น