จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ตะลึงพบลักลอบโค่นต้นกฤษณาในสวนป่าบางขนุน



เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2556 นายณัชพล คงเกลี้ยง ปลัดอำเภอถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายธารา เครือพานิช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอถลางจำนวนหนึ่ง เข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าบางขนุน หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการลักลอบตัดต้นไม้กฤษณาเป็นจำนวนมาก 


จากการตรวจสอบบริเวณที่ได้รับการร้องเรียน ซึ่งห่างจากถนนไปประมาณ 200 เมตร พบร่องรอยไม้กฤษณาขนาด 2 คนโอบ มีอายุกว่า 50 ปี ถูกตัดโค่นล้มอยู่เป็นจำนวนนับ 100 ต้น มีทั้งร่องรอยการสับเนื้อไม้ เพื่อเอาแกนไม้ทั้งเก่าและใหม่ นอกจากยังมีการตัดแบ่งออกเป็นท่อนๆ เพื่อง่ายต่อการขนย้าย และยังมีการเศษไม้ที่มีลักษณะการกรากเป็นชิ้นเล็กๆ เรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก 


คาดว่าถูกตัดทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน โดยทุกต้นมีร่องรอยการเจาะเพื่อเอาแกนข้างใน ซึ่งแกนดังกล่าวหากนำไปขายจะมีกิโลกรัมละ 500,000 – 1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพ สำหรับมูลค่าของไม้กฤษณาที่ถูกตัดโค่นดังกล่าวคาดว่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท 


นายณัชพล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตามที่ได้รับการร้องเรียน พบว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่สวนป่าบางขนุนจริง เบื้องต้นที่ตรวจสอบคาดว่าจะมีไม้ที่ถูกตัดโค่นกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 100 ต้น โดยจากข้อมูลที่ได้รับทราบว่ามีการแอบเข้ามาตัดในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตก เนื่องจากสามารถอำพรางการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้


ส่วนกลุ่มที่เข้ามาตัดนั้นน่าจะมาจากจังหวัดทางภาคอีสาน ซึ่งมีความรู้เรื่องการตัดไม้กฤษณาเป็นอย่างดี มีอยู่ประมาณ 5 – 6 คน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง จะใช้รถยนต์กระบะ ไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ ป้ายทะเบียน 9301 ซึ่งชาวบ้านเคยได้พบและห้ามปราม แต่กลุ่มดังกล่าวไม่ฟังและยังแอบเข้ามาทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ก่อนที่ไม้กฤษณาในสวนป่าจะถูกตัดไปจนหมด 


อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการตรวจสอบแล้ว ได้มีการแจ้งประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรถลางและได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.อำนวย ไกรวุฒิอนันท์ รอง ผกก.สภ.ถลาง และ ร.ต.ท.สุชาติ รือชา รองสารวัตรปราบปราม สภ.ถลาง เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย เบื้องต้นไม่พบกลุ่มผู้ลักลอบตัดต้นไม้กฤษณาแต่อย่างใด พบเพียงตอไม้กฤษณาที่ถูกโค่นจำนวนมาก คาดว่าก่อนหน้านี้ไดมีการแปรรูปไม้กฤษณาและขนย้ายออกไปบ้างแล้ว 


จึงได้มีการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งตรวจยึดไม้กฤษณาดังกล่าวไว้ และจะได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.ภูเก็ตเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับได้เดินทางไปยังที่ททำการสวนป่าบางขนุนซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่มีการลักลอบตัดไม้ประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ แต่ไม่พบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พบเพียงลูกจ้างของศูนย์เพาะชำเท่านั้น และได้พยายามติดต่อไปยังหัวหน้าสวนป่าบางขนุนแต่ไม่สามารถติดต่อไป จึงเดินทางกลับ 


ทั้งนี้พ.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า หลังจากนี้จะทำหนังสือส่งมอบเรื่องให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ภูเก็ตเข้ามาดำเนินการต่อ เพราะมีอำนาจรับผิดชอบโดยตรง เบื้องต้นจากการตรวจสอบของฝ่ายปกครองอำเภอถลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ามีการกระทำผิดจริง และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบทางเข้าออกของสวนป่าบางขนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันผู้ลักลอบตัดไม้แอบเข้ามาดำเนินการต่อ และ หากพบว่ามีกลุ่มใดต้องสงสัยที่ไม่ใช่ชาวบ้านในพื้นที่ จะได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบ และดำเนินการกับผู้ทำผิดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป 


อย่างไรก็ตามป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าบางขนุนได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามกฎหมายกระทรวงฉบับที่ 217 พ.ศ.2507 เนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ แต่ตอนนี้มีประชาชนเข้าไปถือครอง และบุกรุกพื้นที่ ตั้งแต่ พ.ศ.2542 ถึงปัจจุบัน รวม 268 ราย เนื้อที่ 3,844 ไร่ และได้มีการดำเนินคดี กับผู้บุกรุกดังกล่าว ตั้งแต่ พ.ศ.2546 ถึงปัจจุบัน จำนวน 69 คดี พื้นที่ 651 ไร่เศษ และนอกจากนี้ มีการอนุญาตใช้พื้นที่ จำนวน 5 ราย เนื้อ 211 ไร่ ทำให้มีพื้นที่สวนป่าที่สมบูรณ์ คงเหลือ ณ ปัจจุบัน ประมาณ 794 ไร่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น