จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หนุนงบ 600 ล. สร้างอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ

นางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันภูเก็ตมีแหล่งน้ำดิบขนาดใหญ่ ประกอบด้วย อ่างเก็บบางวาด อ.กะทู้ กับอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ.ถลาง และที่อยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 1 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำคลองกระทะ อ.เมืองภูเก็ต ใช้งบก่อสร้างประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้รับงบประมาณแล้ว ทราบว่าล่าสุดทางรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ผ่านความเห็นชอบการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งจะทำให้มีแหล่งน้ำดิบในพื้นที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่มารองรับอีกส่วนหนึ่ง โดยเมื่อรวมแหล่งน้ำดิบที่มีอยู่ทั้งหมดจะทำให้มีน้ำใช้ได้ต่อไปอีกอย่างน้อยประมาณ 10 ปี กับจำนวนของประชากรและนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเท่ากับปัจจุบัน ส่วนการต่อท่อน้ำดิบจากเขื่อนรัชประภานั้น เป็นการดำเนินการเพื่อรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ซึ่งนอกจากนำมาใช้ที่ภูเก็ตแล้ว ในระหว่างทางยังสามารถปล่อยน้ำให้กับทาง จ.กระบี่และ จ.พังงาที่มีการวางท่อผ่านได้ด้วย นางอัญชลีกล่าว

นางอัญชลี กล่าวด้วยว่า การบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่นั้นคงจะเป็นหน้าที่ของจังหวัดในการที่จะเป็นผู้วางแผนการใช้น้ำร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ เพราะรัฐบาลคงไม่สามารถที่จะลงไปในรายละเอียดได้ทั้งหมด และจากการที่มีการสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มเติมก็จะทำให้การบริหารจัดการน้ำดีขึ้น โดยทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะต้องไปจัดทำโครงการต่อท่อส่งไปยังบ้านเรือนของประชาชน ซึ่งเชื่อว่าทางจังหวัดก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพดำเนินการทั้งระบบ นอกจากเรื่องของน้ำดีแล้วอนาคตก็จะต้องเข้ามาดูในเรื่องของน้ำเสียควบคู่กันไปด้วย

อย่างไรก็ตาม นางอัญชลี กล่าวด้วยว่า จากปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งทางการประปาส่วนภูมิภาคได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี 2 โครงการ คือ การต่อท่อน้ำดิบจากเขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี มายัง จ.ภูเก็ต กับโครงการต่อท่อน้ำดิบจากเขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานีไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทางการประปาส่วนภูมิภาคไปดำเนินการศึกษารูปแบบรายละเอียดที่ชัดเจนของโครงการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณารูปแบบของการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะเป็นลักษณะของการร่วมทุนระหว่างภาครัฐกับเอกชน จากข้อมูลเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนจุดละประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น